Investing.com - หุ้นเอเชียส่วนใหญ่ร่วงลงอย่างรวดเร็วในวันนี้ หลังรายงานการโจมตีของอิสราเอลต่ออิหร่านยิ่งเพิ่มความกังวลเกี่ยวกับสภาวะที่ย่ำแย่ลงในตะวันออกกลาง ขณะที่คำเตือนอย่างต่อเนื่องเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ ก็บั่นทอนความเชื่อมั่นเช่นกัน
การขาดทุนอย่างมากในหุ้นการผลิตชิปและเทคโนโลยียังคงมีแรงกดดัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังการลขาดทุนของ Taiwan Semiconductor Manufacturing Corp (NYSE:{32306|TSM}})
รายงานเหตุระเบิดในอิหร่านกระทบต่อสินทรัพย์เสี่ยง
หุ้นในตลาดภูมิภาคร่วงลงอย่างรวดเร็วในช่วงเช้า หลังจากรายงานของสื่อเกี่ยวกับเหตุระเบิดทั่วอิหร่านเพิ่มความกังวลว่าอิสราเอลได้ตอบโต้เตหะรานจากเหตุโจมตีเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
รายงานข่าวของอิหร่านยังระบุด้วยว่า เหตุระเบิดดังกล่าวเกิดขึ้นใกล้กับโรงงานนิวเคลียร์ของอิหร่านในเมืองอิสฟาฮาน ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดความขัดแย้งในตะวันออกกลางที่รุนแรงขึ้น
รายงานดังกล่าวก่อให้เกิดการขาดทุนเป็นวงกว้างทั่วตลาดเอเชีย ซึ่งหุ้นญี่ปุ่นได้รับผลกระทบหนักที่สุด โดยดัชนี Nikkei 225 ลดลง 3.4% ขณะที่ TOPIX ลดลง 2.3%
ข้อมูลในวันนี้แสดงให้เห็นว่าอัตราเงินเฟ้อ CPI ของญี่ปุ่นขยายตัวอย่างมากตามที่คาดไว้ในเดือนมีนาคม
ดัชนี ASX 200 ของออสเตรเลียร่วงลงเกือบ 2% ขณะที่การขาดทุนในหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีฉุดให้ KOSPI ของเกาหลีใต้ร่วงลง 3.1%
การขาดทุนในจีนค่อนข้างถูกจำกัดจากความเชื่อมั่นเกี่ยวกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม ดัชนี CSI 300 และ เซี่ยงไฮ้คอมโพสิต ปรับลง 0.6% และ 0.12% ตามลำดับ
แต่การขาดทุนในหุ้นเทคโนโลยีส่งผลให้ดัชนี ฮั่งเส็ง ของฮ่องกงร่วงลง 1.5%
ดัชนีอินเดียฟิวเจอร์ส และ Nifty 50 มีแนวโน้มเปิดตลาดแบบขาลงตามการลดลงของหุ้นประเภทเดี่ยวกันอื่น ๆ ในภูมิภาค
แนวโน้มอ่อนแอของ TSMC กดดันหุ้นเทคโนโลยี
หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีทำผลงานได้ย่ำแย่ที่สุดในตลาดเอเชียวันนี้ โดย TSMC (TW:2330) ปรับลดแนวโน้มการขยายตัวในอุตสาหกรรมชิปของปีนี้ ส่งผลให้หุ้นร่วงกว่า 6% ในตลาดไต้หวัน
TSMC ยังคงมีการเติบโตของกำไรที่แข็งแกร่ง และยังมีแนวโน้มกำไรที่เป็นบวก แต่ก็ยังถูกบดบังด้วยการคาดการณ์ของบริษัทเกี่ยวกับการเติบโตของตลาดเซมิคอนดักเตอร์ที่อาจลดลงในปี 2024 โดย TSMC อ้างถึงความต้องการอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์สำหรับผู้บริโภคที่ลดลง นั้นสูงกว่าความต้องการที่เพิ่มขึ้นในภาคปัญญาประดิษฐ์
TSMC ทำหน้าที่เป็นเหมือนข้อบ่งชี้ของความต้องการในอุตสาหกรรมชิปโดยรวม ซึ่งแนวโน้มดังกล่าวอาจทำให้เกิดการร่วงลงทั่วทั้งตลาดเทคโนโลยี
SK Hynix Inc (KS:000660) ของเกาหลีใต้ และ Samsung Electronics Co Ltd (KS:005930) ลดลง 5.8% และ 3.5% ตามลำดับ ขณะที่ Advantest Corp. ของญี่ปุ่น (TYO:6857) และ Tokyo Electron Ltd. (TYO:8035) ลดลง 5.7% และ 7.5%
บริษัท Semiconductor Manufacturing International Corp ของจีน (HK:0981) ลดลง 1.9%
Bostic เตือนถึงการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
ความคิดเห็นเชิง hawkish จากเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐยังส่งผลกระทบต่อตลาดสินทรัพย์เสี่ยง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อ ราฟาเอล บอสติก ประธานเฟดแอตแลนต้าได้กล่าวเตือนว่าธนาคารอาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้หากอัตราเงินเฟ้อยังคง sticky
ความคิดเห็นของบอสติกผสมกับสัญญาณเชิง hawkish จากเฟดตลอดทั้งสัปดาห์ ทำให้เทรดเดอร์เชื่อว่าการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนมิถุนายนเหลือโอกาสเพียงน้อยนิดเท่านั้น
ดัชนีวอลล์สตรีทร่วงลงในวันพฤหัสบดี ขณะที่หุ้นฟิวเจอร์สสหรัฐขาดทุนเพิ่มเติมในตลาดเอเชีย โดย S&P 500 ฟิวเจอร์ส Nasdaq 100 ฟิวเจอร์ส และ ดาวโจนส์ฟิวเจอร์ส ร่วงลงระหว่าง 1% ถึง 2% หลังจากรายงานการโจมตี