เส้นทางข้างหน้า มีหลายด่านต้องฝ่าฟัน

เผยแพร่ 28/11/2567 09:59

ด้วยโครงสร้างเศรษฐกิจของบ้านเราที่มีสัดส่วนการพึ่งพิงภาคการ ส่งออกในระดับสูงราว 70%ของ GDP ขณะที่มองไปข้างหน้าเห็นอุปสรรค ใหญ่ในเรื่องการกีดกันการค้าระหว่างประเทศ ผ่านทั้งการตั้งกำแพงภาษี และ มาตาการต่างๆ ซึ่งมีแนวโน้มรุนแรงขึ้นหลัง ปธน. สหรัฐฯคนใหม่เข้า ดำรงตำแหน่ง ขณะที่ภาคเศรษฐกิจในประเทศก็มีปัจจัยฉุดรั้งการเติบโต จาก ภาระหนี้ครัวเรือน และ หนี้สาธารณะที่อยู่ในระดับสูง ภายใต้ สภาพแวดล้อมดังกล่าวทำให้IMF ประเมิน GDP GROWTH บ้านเราที่ 2.7% ในปีนี้ และ 2.9% ในปีหน้า ทั้งนี้อยู่ภายใต้ภาวะที่รัฐบาลมีมาตรการ กระตุ้นเศรษฐกิจออกมา ส่วนเรื่องนโยบายการเงิน แม้IMFจะเห็นด้วยกับ การปรับลดดอกเบี้ย แต่ต้องรอดูท่าที่ของ กนง. หลังจากนี้ไป โดยเราเห็น ว่าโอกาสที่ กนง. จะปรับลดดอกเบี้ยมีไม่มาก องค์ประกอบของปัจจัยแวดล้อมทางพื้นฐานเมื่อมองไปข้างหน้าถือว่ายัง ไม่เอื้อต่อ SET INDEX ขณะที่มูลค่าการซื้อขายเบาบาง วันนี้คาดกรอบ 1424-1439 จุด TOP PICK เลือก INTUCH, PLANB และ MASTER

จับตา TRADE WAR รอบใหม่ หนุนส่งออกจีนเร่งตัวปลายปีนี้ วานนี้ตลาดตลาดหุ้นจีน-ฮ่องกงดีดตัวขึ้นแรงราว 1.5% -2.3% จากความคาดหวัง มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในการประชุมเดือน ธ.ค. ของผู้นำจีนที่จะมีการประชุม POLITBURO และ CENTRAL ECONOMIC WORK CONFERENCE (CEWC) และอีกหนึ่งประเด็นที่น่าจับตาในจีนคือ “การเตรียมรับมือกับความเสี่ยงสงคราม การค้า (TRADE WAR) รอบใหม่” หลัง TRUMP ขึ้นรับตำแหน่ง ปธน. สหรัฐฯ คนที่ 47 วันที่ 20 ม.ค. 67 ซึ่งเมื่อพิจารณาถึงความสัมพันธ์ระหว่างจีน-สหรัฐฯ ล่าสุด มี แนวโน้มพึ่งพิงกันน้อยลง แม้สหรัฐจะขาดดุลการค้ากับจีนอันดับ 1 ของโลก แต่จะเห็น ได้ว่า จีนลดความเสี่ยงชะลอการส่งออกสินค้าไปยังสหรัฐฯ ลงมาเรื่อยๆ นับแต่ปี 2561 สหรัฐฯ เคยขาดดุลการค้ากับจีนจาก 3.8 แสนล้านเหรียญฯ ลดลงมาอยู่ที่ 2.6 แสนล้านเหรียญฯ ในปี 2566 กลับมาที่ไทย สหรัฐขาดดุลกับไทยเพิ่มขึ้นจากปี 2561 ที่ 1.68 หมื่นล้านเหรียญ (อันดับ 13 ของโลก) ในปี 2566 เพิ่มขึ้นเป็น 3.7 หมื่นล้าน เหรียญ (อันดับ 11 ของโลก)

ในอีกแง่มุมหนึ่งของการลดความเสี่ยง TRADE WAR อาจเห็นจีนเร่งส่งออกสินค้าช่วง ที่เหลือของปีนี้ ก่อนที่ TRUMP จะเดินหน้าปรับขึ้นภาษีนำเข้า โดย BLOOMBERG เพิ่มคาดส่งออกจีน 4Q67 จาก 5%YOY เป็น 7%YOY พร้อมกับประเมินจะว่าจะหนุน ใการส่งออกจีนปี 2567 ทำจุดสูงสุดเป็นประวัติการณ์

ภาวะข้างต้น หนุนให้ปริมาณการเร่งขนส่งและตุนสินค้า มีโอกาสเพิ่มขึ้น (Q) ซึ่งยัง ต้องรอติดตามค่า FREIGHT จะทยอยเพิ่มขึ้นด้วยหรือไม่ (P ?) ทั้งนี้หากปรับตัวสูงขึ้น มองเป็น SENTIMNET เชิงบวกต่อกลุ่มขนส่งและเดินเรือ สำหรับหุ้นผลตอบแทนเด่นยุค TRUMP1.0 (2560 - 2563) อาทิ RCL III AMATA WICE WHA SJWD เป็นต้น

IMF ปรับคาดเศรษฐกิจไทย ปีหน้ายังโตเกือบ 3%YOY วานนี้IMF ปรับคาดเศรษฐกิจไทย คาด +2.7%YOY ในปีนี้ และ +2.9%YOY ในปีหน้า ลุ้นการลดดอกเบี้ย + นโยบายการคลังในการกระตุ้นเศรษฐกิจ ส่วนความเสี่ยงที่กังวล คือ ความเสี่ยงทางการค้า หนี้เอกชนสูง ห่วงหนี้ครัวเรือน ซึ่งหากนำประมาณการของ IMF มาเทียบกับประมาณการของหลายสำนักเศรษฐกิจที่ประเมิน GDP ไว้ก่อนหน้านั้น พบว่ามีอัตราเติบโตใกล้เคียงกัน ดังตารางด้านล่าง โดยค่าเฉลี่ยของตัวเลขคาดการณ์ GDP ไทยของสำนักเศรษฐกิจต่างๆ อยู่ที่ 2.6%YOY ในปีนี้ จึงทำให้ GDP 4Q67 ต้องเติบโตอย่างน้อย +3.5%YOY ถึงจะโตเท่า ประมาณการที่ตั้งไว้

ขณะที่ปีหน้าค่าเฉลี่ยของตัวเลขคาดการณ์ GDP ไทยของสำนักเศรษฐกิจต่างๆ อยู่ที่ 3.1%YOY ในปีหน้า ซึ่งยังมีโอกาสเกิดขึ้นได้ จากการกระตุ้นเศรษฐกิจไทยของภาครัฐ ฯ ส่วนใหญ่จะเน้นไปที่การใช้จ่ายภาครัฐ(G) การลงทุนภาคเอกชน(I) และการบริโภค ภาคครัวเรือน (C) เป็นหลัก การใช้จ่ายภาครัฐ (G) นับตั้งแต่ 1 ต.ค. –15 พ.ย. 67 ของปีงบฯ 2568 รัฐบาลมีการ เบิกจ่ายงบลงทุนไปแล้วราว 9.7% ของทั้งหมด ซึ่งสูงกว่าช่วงเดียวกันของงบฯ ปี 2567 ชัดเจน และหากพิจารณางบรายจ่ายลงทุนปี 2568 อยู่ที่ 9.1 แสนล้านบาท (+ 26.5%YOY) ตามโครงการที่จะเกิดขึ้นในปี 2568 การลงทุนภาคเอกชน (I) เห็นความเร่งสร้างความเชื่อมั่นดึงดูดนักลงทุนต่างชาติ หนุน ยอดขอรับการส่งเสริมการลงทุนของ BOI ใน 9M67 พุ่งต่อเนื่อง ทะลุ 7.2 แสนล้าน บาท (+42%YOY) ซึ่งเม็ดเงินจริงน่าจะไหลเข้าไทยหลังจากนี้อีกราว 1-2 ปี ขณะที่ผล ของการหลีกหนีความเสี่ยง TRADE WAR เมื่อปี 2018 ช่วยหนุนให้ยอด FDI เร่งตัว ขึ้น ทำให้สัดส่วน FDI ต่อ GDP ในปี 2018 เพิ่มขึ้นเป็น 2.7% สูงกว่าหลายประเทศใน เอเชีย

การบริโภคภาคครัวเรือน (C) การขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย จากที่รัฐบาลไทยเตรียม กระตุ้นเศรษฐกิจต่อเนื่อง อาทิ แจกเงิน 1 หมื่นบาทเฟส 2 ให้กับกลุ่มผู้สูงอายุมากกว่า 60 ปี ไม่เกินเทศกาลตรุษจีนในปี 68 (ก่อน 29 ม.ค. 68) และเห็นชอบหลักการปรับ โครงสร้างหนี้ครัวเรือนใน 3 กลุ่ม ได้แก่ บ้าน รถยนต์ และหนี้เพื่อการบริโภค โดยให้มี การพักชำระดอกเบี้ย 3 ปี สรุป กลยุทธ์การลงทุนเพื่อหวังผลกำไรระยะกลาง-ยาว เน้นหุ้น DEGLOBALIZATION หลบความผันผวนจากปัจจัยภายนอก คือ ADVANC, CPALL (BK:CPALL), CPAXT, PLANB, CK, STECON, WHA, AMATA

คาดการณ์หุ้นเข้าออก SET50 และ SET100 รอบ 1H68 ฝ่ายวิจัยฯ คาดการณ์หุ้นเข้าออกดัชนี SET50 และ SET100 รอบ 1H68 มีรายละเอียด ดังนี้ ▪ หุ้นเข้า SET50 4 บริษัท คือ BANPU, SAWAD, COM7, CCET ▪ หุ้นออก SET50 4 บริษัท คือ EA, BCP, CENTEL, TIDLOR ▪ หุ้นเข้า SET100 4 บริษัท คือ CCET, JTS, PR9, COCOCO ▪ หุ้นออก SET100 4 บริษัท คือ RBF, TIPH, MBK, TOA

ดังนั้นแนะนำหาจังหวะเก็งกำไรหุ้นเข้า SET50 อย่าง BANPU, SAWAD, COM7, CCET ก่อนตลาดหลักทรัพย์จะประกาศผล (ปกติอยู่ในช่วงสัปดาห์ที่ 3 ของเดือน ธ.ค.)

บทความนี้จัดทำและเผยแพร่ครั้งแรกบนเว็บไซต์ ASIA Plus Securities

ความคิดเห็นล่าสุด

กำลังโหลดบทความถัดไป...
การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย