Investing.com - หุ้นเอเชียแปซิฟิกปรับลดลงในตลาดวันนี้ หลังจากการขาดทุนในวอลล์สตรีทซึ่งถูกกดดันจากภาคเทคโนโลยีเป็นหลัก
ดัชนี ASX 200 ขยับลง 0.1% ขณะที่ KOSPI 200 และ Nikkei 225 ลดลง 0.4% ทั้งคู่
ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (DJIA) ลดลง 404 จุดหรือ 1% เป็น 38585 จุดส่วน S&P 500 ลดลง 1% เป็น 5,078 จุดและ Nasdaq ร่วงลง 1.7 % เป็น 15939 จุด แม้ว่าตลาดโดยรวมจะมีแนวโน้มลดลง แต่บริษัทค้าปลีก Target (NYSE:TGT) ก็สามารถต่อต้างแรงกกดันนี้ได้ โดยเพิ่มขึ้น 12% หลังจาก รายงาน ผลกำไรที่สูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ได้ในช่วงไตรมาสวันหยุด
ด้านตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ก็ประสบกับความผันผวนเช่นกัน ราคา น้ำมันดิบเบรนท์ ปรับลง 0.9% เป็น 82.05 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ขณะที่ราคา ทองคำ เพิ่มขึ้นก่อนจะปิดที่สถิติสูงสุดเป็นเซสชั่นที่สองติดต่อกัน Bitcoin สกุลเงินดิจิทัลชั้นนำ ทำสถิติสูงสุดใหม่เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปลายปี 2021
ในตลาดตราสารหนี้ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลออสเตรเลียอายุ 2 ปียังคงทรงตัวที่ 3.77% ในขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลออสเตรเลียอายุ 10 ปีลดลงเป็น 4.09% พันธบัตรสหรัฐฯ ปรับตัวลดลง โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปีอยู่ที่ 4.55% และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีอยู่ที่ 4.14%
หุ้นจีนมีผลการดำเนินงานที่หลากหลาย เนื่องจากนักลงทุนประเมินเป้าหมายการเติบโตของประเทศในปี 2024 ซึ่งมีการกำหนดไว้ในการประชุมสภาประชาชนแห่งชาติ (NPC) ขณะที่หุ้นธนาคารทำกำไร แต่หุ้นซอฟต์แวร์และเภสัชกรรมนั้นขาดทุนและสร้างแรงกดดันให้กับตลาด ดัชนี เซี่ยงไฮ้คอมโพสิต ปิดสูงขึ้น 0.3% ขณะที่ดัชนีคอมโพสิตเซินเจิ้นและดัชนี ChiNext ลดลงเล็กน้อย
ดัชนี ฮั่งเส็ง ของฮ่องกงร่วงลง 2.6% และถือเป็นการร่วงลงภายในวันเดียวที่รุนแรงที่สุดนับตั้งแต่เดือนมกราคม เนื่องจากเทรดเดอร์ประเมินประกาศจากการประชุม NPC ของจีน ทางด้านดัชนี Nikkei ของญี่งปุ่นยังคงทรงตัว และ Sensex ของอินเดียปรับลง 0.3%
หุ้นยุโรปส่วนใหญ่มีแนวโน้มขาลง โดยดัชนี Stoxx 600 ขยับลง 0.2% เป็น 496.27 จุด DAX ของเยอรมนีขยับลง 0.1% และ CAC 40 ของฝรั่งเศษปรับลง 0.3% ในทางกลับกัน FTSE 100 ของสหราชอาณาจักรปิดเพิ่มขึ้นเล็กน้อยที่ 0.07%