โดย Daniel Shvartsman
Investing.com - ตลาดเริ่มต้นในเดือนกันยายนอย่างแข็งแกร่ง โดย S&P 500 เพิ่มขึ้น 3.4% ในสัปดาห์แรกของเดือนและ NASDAQ Composite เพิ่มขึ้น 4.1% ในขณะที่ ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เพิ่มขึ้นเพียง 2.4% ไม่ว่าจะเป็นเพียงการปรับตำแหน่งในตลาดหรือสัญญาณของความยั่งยืนมากขึ้นในสัปดาห์นี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีรายงานเงินเฟ้อชุดใหม่ออกมา ข่าวองค์กรอยู่ในด้านที่เบาบางกว่าแม้ว่ารายงานรายได้ขนาดใหญ่และ IPO รายใหญ่ที่หายากจะอยู่บนพาดหัวข่าวสำหรับสัปดาห์หน้า วันหยุดสุดสัปดาห์นี้เป็นเครื่องเตือนใจถึงความต่อเนื่องและการเปลี่ยนแปลงของสงครามรัสเซีย-ยูเครน และในขณะที่ความคืบหน้าล่าสุดอาจไม่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อตลาด แต่ผลสะท้อนกลับอาจส่งผลกระทบอย่างแน่นอนผ่านโลกการเงิน
นี่คือ 5 สิ่งที่คุณควรรู้เกี่ยวกับตลาดการเงินสัปดาห์นี้:
1. รายงาน CPI และ PPI
รายงานดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนสิงหาคมออกมาในสัปดาห์นี้ อินเดียเผยแพร่รายงาน CPI ในวันจันทร์ที่ เยอรมันนี สเปน และ สหรัฐฯ เผยแพร่ทั้งหมดในวันอังคาร สหราชอาณาจักร เผยแพร่รายงานในวันพุธ ฝรั้่งเศษ เผยแพร่รายงานในวันพฤหัสบดี และ อิตาลี และ ยูโรโซน โดยรวมจะเปิดตัวในวันศุกร์นี้
นอกจากนี้ยังมีรายงานดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) จาก ญี่ปุ่น, สวิตเซอร์แลนด์ (วันอังคาร), สหราชอาณาจักร (วันพุธ) ) และ สหรัฐอเมริกา
คาดการณ์ว่าเงินเฟ้อในสหรัฐฯ จะคลี่คลาย โดย Core CPI รายเดือน คาดว่าจะอยู่ที่ 0.3% ตรงกับตัวเลขของเดือนที่แล้ว ค่าที่ได้ออกมาต่ำที่สุดนับตั้งแต่ฤดูใบไม้ร่วงที่แล้ว CPI คาดว่าจะอยู่ที่ -0.1% เนื่องจากราคาน้ำมันที่ลดลงยังคงกดดันเงินเฟ้อ Core PPI คาดว่าจะอยู่ที่ 0.3% เพิ่มขึ้นจาก 0.2% ของเดือนที่แล้ว ขณะที่ ตัวเลข PPI ก็คาดว่าจะอยู่ที่ -0.1%
ความคาดหวังเหล่านี้ค่อนข้างแตกต่างกันในยุโรป สหราชอาณาจักรคาดว่าจะเห็น core CPI รายเดือนเพิ่มขึ้น ที่ 0.8% ซึ่งเป็นการกระโดดที่สำคัญ ขณะที่ headline CPI คาดว่าจะเพิ่มขึ้นอีก 0.6% คาดการณ์ว่า ตัวเลข core CPI ยูโรโซนจะเพิ่มขึ้น 0.5% เพิ่มจากตัวเลขที่แก้ไขเมื่อเดือนที่แล้วที่ 0.1% headline CPI ก็เช่นเดียวกัน เนื่องจากราคาพลังงานกำลังจะไต่ระดับขึ้นเนื่องจากฤดูกาลที่เปลี่ยนไป
ECB ได้เคลื่อนไหวล่าสุดแล้ว โดยปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 75 จุดในสัปดาห์ที่แล้ว เฟดคาดว่าจะคงอยู่ที่ 50 จุดหากไม่ใช่ 75 และรายงานเงินเฟ้อไม่คาดว่าจะสั่นคลอนการตัดสินใจนี้ แต่ไม่ต้องสงสัยประธานเจอโรมพาวเวลล์ยินดีจะนำสัญญาณเงินเฟ้อไปประเมินกับการตัดสินใจอีกที
ธนาคารกลางอังกฤษ ซึ่งกำหนดการประชุมในสัปดาห์นี้แต่เลื่อนออกไปหลังการเสียชีวิตของควีนอลิซาเบธที่ 2 เผชิญกับสภาพแวดล้อมที่ผันผวนมากขึ้น โดยมีนายกรัฐมนตรีคนใหม่คือ ลิส ทรัส และได้ออกแผนพลังงานหลักแล้ว ผลกระทบต่อตลาดเป็นหนึ่งในสิ่งที่ BOE จะต้องชั่งน้ำหนัก นอกจากนี้ยังมีรายงาน การจ้างาน เป็นข้อมูลเพิ่มเติมที่จะนำมาใช้ประเมินด้วยเช่นกัน
2. รายงานผลประกอบการที่น่าสนใจ 2 ฉบับ
แม้ว่าฤดูกาลของผลประกอบการไตรมาส 2 นั้นเพิ่งจะออกมาดี แต่ก็มีบริษัทซอฟต์แวร์สำคัญ 2 แห่งที่รายงานผลประกอบการที่น่าจับตามอง
Oracle (NYSE:ORCL) ยักษ์ใหญ่ด้านซอฟต์แวร์ รายงานเมื่อวันจันทร์หลังการปิดตลาด และคาดว่าจะแสดงการเติบโตของกำไร 4% ในไตรมาสแรก ซึ่งรวมถึงการเข้าซื้อกิจการใหม่ล่าสุดของ Cerner (NASDAQ:CERN) Oracle มีราคาเป้าหมายล่าสุดจากนักวิเคราะห์ Global Equities ในแง่ของข้อตกลง Cerner รวมถึง ราคาเป้าหมายจาก Guggenheim แต่ก็เหมือนกับหลาย ๆ อุตสาหกรรมซอฟต์แวร์และเทคโนโลยีกำลังปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมระดับมหภาคที่ยากลำบากขึ้น เนื่องจากบริษัทมีข่าวเลิกจ้างพนักงาน ดังนั้นรายงานผลประกอบการและการประชุมอาจทำให้แนวทางชัดเจนขึ้น
Adobe Systems (NASDAQ:ADBE) รายงานเมื่อวันพฤหัสบดีหลังตลาดปิด บริษัทคาดว่าจะเติบโต 7.3% และรายได้เติบโต 12.6% นักวิเคราะห์ของ Jefferies เตือนว่าบริษัทไม่ได้ปรับคำแนะนำสำหรับลมกระโชกแรงในระดับมหภาค มีเพียงผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยนเท่านั้น ดังนั้นจึงอาจมีพื้นที่ให้ผิดหวังมากขึ้น บริษัทผิดหวังใน รายงานก่อนหน้าของตน แต่ราคาหุ้นกลับฟื้นตัวมากกว่าเดิม บทบาทของ Adobe ในฐานะหนึ่งในบริษัทซอฟต์แวร์ดั้งเดิมที่เปลี่ยนไปใช้โมเดล SaaS (ซอฟต์แวร์เป็นบริการ) ได้สำเร็จ ทำให้รายงานของ Adobe มีประโยชน์อย่างยิ่ง
3. Corebridge Financial IPO
การซื้อขายที่ผันผวนในปี 2022 ได้ทำให้ตลาด IPO กลายเป็นความหายนะ โดย IPO ส่วนใหญ่ที่เข้าสู่ตลาดนั้นซื้อขายแบบเบาบาง Corebridge Financial เป็นการแยกออกจาก AIG (NYSE:AIG) แต่จะออกสู่ตลาดผ่านการเสนอขายหุ้น แทนที่จะเป็นการออกโดยตรงให้กับผู้ถือหุ้นของ AIG มุ่งเน้นไปที่การแก้ปัญหาการเกษียณอายุและแผนประกัน บริษัทมีกำหนดจะเริ่มซื้อขายในวันพฤหัสบดี และพยายามที่จะระดมทุน 1.68-1.92 พันล้านดอลลาร์ ก่อนคิดค่าธรรมเนียม เทียบกับการประเมินมูลค่าที่ระหว่าง 13.6-15.6 พันล้านดอลลาร์
4. การประชุมใหญ่ด้านการลงทุนและวันนักลงทุนของสตาร์บัคส์
เมื่อช่วงฤดูร้อนสิ้นสุดลงและฤดูกาลรายงานผลประกอบการในช่วงเวลาที่เงียบที่สุด หลายบริษัทกำลังพยายามหาทางพบปะกับนักลงทุน การประชุมและการนำเสนอของนักลงทุนมักจะมีการอัปเดตและประกาศเชิงกลยุทธ์ และการเปลี่ยนแปลงของตลาด
นี่คือการประชุมสำคัญในสัปดาห์นี้:
Goldman Sachs Communicopia + Technology Conference พร้อมกับ บริษัทต่าง ๆ เช่น MongoDB (NASDAQ:MDB), Warner Bros Discovery (NASDAQ:WBD), Dynatrace (NYSE) :DT), Dell Technologies Inc (NYSE:DELL), Airbnb Inc (NASDAQ:ABNB), Snowflake Inc (NYSE:{{1166012|SNOW}) }), ServiceNow (NYSE:NOW), T-Mobile US Inc (NASDAQ:TMUS), Pinterest (NYSE:PINS) และ Visa (NYSE :V)
Morgan Stanley การประชุมด้านการดูแลสุขภาพระดับโลกประจำปีครั้งที่ 20 ซึ่งมีบริษัทต่าง ๆ เช่น Moderna (NASDAQ:MRNA), Pfizer (NYSE:PFE), Quidel (NASDAQ:QDEL), Merck & Company Inc (NYSE:MRK), Bausch + Lomb Corp (NYSE:BLCO), AbbVie Inc (NYSE:{{40041|ABBV}) }), Eli Lilly (NYSE:LLY), Insulet (NASDAQ:PODD) และ Quest Diagnostics (NYSE:DGX)
Barclays) Global Financial Services Conference นำเสนอ Cboe Global Markets Inc (NYSE:CBOE), US Bancorp (NYSE:USB), Huntington Bancshares (NASDAQ: HBAN), American Express (NYSE:AXP), JPMorgan (NYSE:JPM), Allstate (NYSE:ALL) และ Robinhood (NASDAQ:HOOD) รวมถึงบริษัทอื่น ๆ
Workday (NASDAQ:WDAY), Workiva (NYSE:WK), Corteva (NYSE:CTVA) และ Starbucks (NASDAQ: SBUX) ทุกคนจะมีวันนักลงทุนหรือนักวิเคราะห์ในวันอังคาร โดยสตาร์บัคส์จะได้รับการจับตาดูอย่างใกล้ชิดโดยเฉพาะเมื่อมีการแต่งตั้งเป็นซีอีโอคนใหม่เมื่อเร็ว ๆ นี้
5. ความคืบหน้าของ รัสเซีย–ยูเครน และผลกระทบ
การยึดเมือง Izium ทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศกลับคืนมาอย่างน่าประหลาดใจของยูเครนได้ดึงดูดความสนใจของผู้สังเกตการณ์ทั่วโลกว่าเป็นจุดเปลี่ยนที่อาจเกิดขึ้นในสงคราม ยูเครนยังโจมตีตำแหน่งของรัสเซียทางตอนใต้ของประเทศ ใกล้กับเคอร์ซอน และหากพวกเขาสามารถรักษาการโจมตีในสองแนวรบและยึดครองดินแดนได้ อาจสร้างความต่างได้
รัสเซียยังคงเพิ่มแรงกดดันทางเศรษฐกิจต่อยุโรปอย่างต่อเนื่อง ด้วยการปิดท่อส่งก๊าซ Nord Stream 1 ในขณะที่ภูมิทัศน์ทางการทหารกำลังเปลี่ยนแปลงและไม่แน่นอน ไม่ใช่เรื่องยากที่จะจินตนาการว่าความพ่ายแพ้ของรัสเซียจะทำให้รัสเซียเต็มใจที่จะใช้ประโยชน์จากเศรษฐกิจของตนกับยูเครนและกับผู้สนับสนุนยูเครนในรูปแบบที่คาดเดาได้และคาดเดาไม่ได้ ซึ่งอาจสร้างแรงกดดันให้ประเทศในยุโรปต้องแก้ไขสถานการณ์ด้านพลังงานก่อนฤดูหนาวจะมาถึง และทำให้รายงานอัตราเงินเฟ้อที่กล่าวถึงที่ด้านบนของบทความมีความสำคัญมากขึ้น