โดย Doris Yu
Investing.com – ราคาน้ำมันปรับตัวขึ้นในเช้าวันนี้ หลังจากกลุ่มผู้ส่งออกน้ำมันและพันธมิตร (OPEC+) เลื่อนการประชุมในสัปดาห์นี้เกี่ยวกับนโยบายการผลิต
สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันเบรนท์ เพิ่มขึ้น 0.61% เป็น 74.73 ดอลลาร์ เมื่อเวลา 22:39 น. ET (2:39 น. GMT) และ สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบ WTI เพิ่มขึ้น 0.69% เป็น 73.48 ดอลลาร์
ข้อมูลอุปทานน้ำมันดิบของสหรัฐจาก สถาบันปิโตรเลียมอเมริกัน แสดงให้เห็นว่ามีการลดลง 8.153 ล้านในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 25 มิถุนายน ต่างจากตัวเลขที่คาดการณ์โดย Investing.com ที่ 4.460 ล้านบาร์เรล และตัวเลข 7.199 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ก่อน
ขณะที่ข้อมูลอุปทานน้ำมันดิบจาก สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานแห่งสหรัฐ จะครบกำหนดในวันนี้
รีเบคก้า เบบิน ผู้ค้าพลังงานอาวุโสของ CIBC Private Wealth Management กล่าวว่า “การซื้อขายจะยังคงแกว่งตัวไปจนถึงวันพฤหัสบดีเมื่อมีการประชุมและการตัดสินใจอย่างเป็นทางการ”
ราคาน้ำมันได้พุ่งขึ้นประมาณ 50% ในปี 2021 เนื่องจากความต้องการเชื้อเพลิงฟื้นตัวในตลาดสำคัญ เช่น สหรัฐและจีน จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม การแพร่กระจายล่าสุดของโควิดสายพันธุ์เดลต้ากำลังส่งผลกระทบต่ออุปสงค์
“สถานการณ์โควิดจะยังคงบดบังตลาดและอาจทำให้ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ไม่พุ่งสูงขึ้น” เบบินกล่าว
ในด้านอุปทาน สมาชิกกลุ่ม OPEC+ บางประเทศ รวมถึงรัสเซีย แนะนำให้เพิ่มอุปทานน้ำมัน ในขณะที่ซาอุดีอาระเบียยังคงกังวลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของโควิดทั่วโลก แม้จะมีความต้องการเพิ่มขึ้น จึงเลื่อนการเจรจาเบื้องต้นไปเป็นวันศุกร์ เพื่อให้มีเวลามากขึ้นในการแก้ไขความขัดแย้ง
โมฮัมหมัด บาร์คินโด เลขาธิการโอเปกมีมุมมองในแง่ดีเกี่ยวกับตลาดจากการประชุมเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา แต่เตือนว่า “ปัญหายังไม่หมดไป” ทั้งนี้ ทางกลุ่มฯคาดว่าจะฟื้นอุปทานบางส่วนที่หยุดชะงักไปในช่วงวิกฤตโควิด โดยนักลงทุนคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 550,000 บาร์เรลต่อวัน
ดาเมียน คูวาร์ลินและเจฟฟ์ เคอร์รี นักวิเคราะห์ของ Goldman Sachs (NYSE:GS) กล่าวว่า ต่อให้กลุ่ม OPEC+ เพิ่มอุปทาน ก็ยังไม่สามารถชดเชยน้ำมันคงคลังเพื่อบรรเทาภาวะตึงตัวของตลาดได้ทันเวลา
“ในท้ายที่สุด อุปทานของกลุ่ม OPEC+ จะต้องมากขึ้น เพื่อสร้างสมดุลให้กับตลาดน้ำมันภายในปี 2022” พวกเขากล่าวเสริม