สรุปราคาทองคําวานนี้ปิดดิ่งลง 21.90 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ท่ามกลางการเคลื่อนไหวที่ผันผวนอย่างหนัก หลังสหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ดีดตัวขึ้น 0.8% ในเดือนเม.ย. เมื่อเทียบราย เดือน ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 0.2% เมื่อเทียบรายปี ดัชนี CPI พุ่งขึ้น 4.2% ซึ่งเป็นการดีดตัวขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.ย.2008 และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 3.6% อย่างไรก็ดี การพุ่งขึ้นแรงของเงินเฟ้อทําให้ตลาดสงสัยในจุดยืนของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ที่มองว่าการพุ่งขึ้นของเงินเฟ้อจะเกิดขึ้นแค่ชั่วคราวเท่านั้น จนกระตุ้นการคาดการณ์ที่ว่า "เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยรวมถึงลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ(GE)เร็วกว่าที่คาดไว้ เพื่อสกัดเงินเฟ้อ สะท้อนจากสัญญา Eurodollar Futures ซึ่ง เป็นตัวชี้วัดการคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยในตลาด บ่งชี้ว่าตลาดเห็นถึงโอกาส B0% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 25 bps ในเดือนธ.ค. 2022 และมีโอกาส 100% ที่จะปรับขึ้น 25 bps ใน ระหว่างเดือนมี.ค.-มิ.ย.2023 ซึ่งการคาดการณ์ดังกล่าวหนุนให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีปรับตัวเพิ่มขึ้นแตะระดับสูงสุดที่ 1.705% ซึ่งกดดันทองคําในฐานะสินทรัพย์ที่ ไม่ได้ให้ตอบแทนในรูปแบบของดอกเบี้ย ขณะที่ดัชนีดอลลาร์แข็งค่าขึ้น 0.67% สู่ระดับ 90.773 ส่งผลให้ราคาทองคําร่วงลงจากระดับสูงสุดในระหว่างวันบริเวณ 1,843.31 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ลงสู่ระดับต่ําสุดบริเวณ 1,812.30 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ด้านกองทุน SPDR ถือครองทองคําไม่เปลี่ยนแปลง สําหรับวันนี้ติดตามการเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อในฝั่ง ผู้ผลิต และจํานวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์
คําแนะนํา แนะนําเน้นการเก็งกําไรระยะสั้นในกรอบ 1,803-1,845 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคาทองคํายังคง พยายามยืนเหนือโซนแนวรับ 1,803 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ ทําให้ราคายังคงมีโอกาสขยับขึ้นเพื่อทดสอบแนวต้านโซน 1,832-1,845 ดอลลาร์ต่อออนซ์
https://th.investing.com/currencies/xau-usd
กระทู้พูดคุยเกี่ยวกับราคาทองคำ SPOT
https://th.investing.com/currencies/xau-usd-commentary
บทความนี้จัดทำขึ้นโดย YLG Bullion International
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ 02-687-9888 กด 1 หรือเว็บไซต์ ylgbullion.co.th