ในสัปดาห์นี้เชื่อว่าตลาดหุ้นสหรัฐ (S&P500) มีโอกาสพักฐานเนื่องจาก (1) เราเชื่อว่า ราคาหุ้นยังไม่สะท้อนผลประกอบการหลังตลาดหุ้นปรับตัวขึ้นสวนทางกับการปรับลด ประมาณการผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนโดยดัชนีS&P500 ปรับตัวขึ้นแล้วกว่า 18% ตั้งแต่กการประกาศทำ Unlimited QEช่วงกลางมี.ค.ที่ผ่านมา(2) บริษัทสหรัฐใน S&P500 จำนวน 123 บริษัทที่มี การประกาศการผลประกอบการ 1 Q20 มีผล ประกอบการเป็นบวก 55 บริษัท เป็นลบ 57 บริษัท และผลประกอบการโดยภาพรวมหดตัว 17% (3) ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา การขยายขนาดงบดุลของ FED เริ่มเติบโตใน อัตราลดลง (+3%WoW เทียบกับ โต 5 %-11% ในสัปดาห์ก่อนๆ ) เชื่อว่าทำให้สภาพคล่องส่วนเกินที่จะมาหนุนสินทรัพย์เสี่ยงลดลง
สัปดาห์ที่แล้วธนาคารกลางยุโรป (ECB) ได้ออกมาตรการทางการเงินเพิ่มเติมโดย อนุญาตให้สถาบันการเงินสามารถนำตราสารหนี้ที่ถูกปรับลดอันดับเครดิตลงสู่ระดับ junk bond ในช่วงที่เกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 มาใช้เป็นหลักประกันเงินกู้กับ ธนาคารกลางยุโรปได้ เพื่อช่วยรักษาสภาพคล่องในระบบโดยเฉพาะธุรกิจขนาดกลาง และขนาดเล็กหรือ SME ซึ่งมีส่วนสำคัญที่ทำให้เกิดการจ้างงานในยุโรปมากถึง 66%
ในวันนี้แนะนำติดตามปริมาณการนำเข้าส่งออกของฮ่องกงเดือนมี.ค,รายงานตัวเลขผู้ว่างงานทั้งหมดในฝรั่งเศสเดือนมี.ค. ,พรุ่งนี้ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) จะมีการประชุม และมีแนวโน้มที่จะปรับเป้าหมายการเข้าซื้อสินทรัพย์เป็นการซื้อแบบไม่จำกัด (Unlimited QE) เช่นเดียวกับ FED
บทความนี้เผยแพร่ครั้งแรกที่ cgsec.co.th