Investing.com - ราคาน้ำมันปรับตัวขึ้นในตลาดเอเชียวันนี้ หลังมีการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจเชิงบวกจากจีน ซึ่งเป็นผู้นำเข้าน้ำมันรายใหญ่ที่สุดของโลก อีกทั้งนักลงทุนยังต้องให้ความสนใจกับการประชุม OPEC+ ที่กำลังจะเกิดขึ้นเพื่อหาสัญญาณเพิ่มเติมเกี่ยวกับอุปทาน
แรงซื้อที่เกิดจากการลดลงของราคาน้ำมันก่อนหน้านี้ได้ช่วยหนุนให้ราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้น หลังจากราคาน้ำมันขาดทุนอย่างหนักในสัปดาห์ก่อน เนื่องจากความตึงเครียดในตะวันออกกลางเริ่มผ่อนคลายลง อย่างไรก็ตาม ข้อตกลงเกี่ยวกับการหยุดยิงระหว่างอิสราเอลและฮิซบอลเลาะห์กลับเริ่มมีสัญญาณตึงเครียด หลังจากทั้งสองฝ่ายกล่าวหากันและกันว่าเป็นฝ่ายละเมิดข้อตกลง
ราคาน้ำมันยังคงสะท้อนถึงความเสี่ยงบางส่วนจากความตึงเครียดที่รุนแรงขึ้นระหว่างรัสเซียและยูเครน
ราคา น้ำมันดิบเบรนท์ฟิวเจอร์ส ที่จะครบกำหนดในเดือนกุมภาพันธ์เพิ่มขึ้น 0.3% มาเป็น 72.02 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ขณะที่ น้ำมันดิบ WTI ฟิวเจอร์ส เพิ่มขึ้น 0.3% เป็น 67.92 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ณ เวลา 08:15 น. (GMT+7)
ดัชนี PMI ของจีนแสดงถึงการขยายตัวในกิจกรรมทางเศรษฐกิจ
ข้อมูลดัชนี PMI จากจีนแสดงให้เห็นว่ากิจกรรมภาคการผลิตในประเทศผู้นำเข้าน้ำมันรายใหญ่ที่สุดของโลกปรับตัวดีขึ้นในเดือนพฤศจิกายน
โดยทั้งข้อมูลจาก รัฐบาล และ ภาคเอกชน ก็มีการสะท้อนถึงแนวโน้มดังกล่าว ซึ่งเกิดขึ้นหลังจากปักกิ่งออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ตั้งแต่เมื่อช่วงปลายเดือนกันยายน
ข้อมูลเหล่านี้ได้ช่วยเพิ่มความหวังว่าเศรษฐกิจจีนจะปรับตัวดีขึ้นในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ท่ามกลางการสนับสนุนอย่างต่อเนื่องจากรัฐบาลปักกิ่ง ความสนใจในเดือนธันวาคมจึงมุ่งไปที่การประชุมทางการเมืองสำคัญทั้งสองครั้งในจีน ซึ่งคาดว่าจะให้สัญญาณเพิ่มเติมเกี่ยวกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ
อย่างไรก็ตาม ความเชื่อมั่นต่อจีนก็ถูกลดทอนลงจากคำขู่ของว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ โดนัลด์ ทรัมป์ ที่อาจมีการเพิ่มมาตรการภาษีต่อจีน อีกทั้งคำขู่ของทรัมป์ยังส่งผลให้เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น ซึ่งจำกัดการเพิ่มขึ้นของราคาน้ำมันโดยรวม
จับตาการประชุม OPEC+ หาสัญญาณอุปทานเพิ่มเติม
ความสนใจในสัปดาห์นี้ยังต้องโฟกัสที่ การประชุม ขององค์กรประเทศผู้ส่งออกน้ำมันและพันธมิตร (OPEC+) ซึ่งมีกำหนดการณ์จะจัดขึ้นในวันพฤหัสบดีนี้ โดยการประชุมดังกล่าวได้ถูกเลื่อนออกไปถึงสี่วันจากวันที่ 1 ไปเป็นวันที่ 5 ธันวาคม
กลุ่ม OPEC+ คาดว่าจะเลื่อนแผนการเพิ่มกำลังการผลิตออกไปอีกครั้ง ท่ามกลางราคาน้ำมันที่ยังคงอ่อนตัวและความกังวลเกี่ยวกับความต้องการที่ซบเซาในปีหน้า
กลุ่ม OPEC+ ได้ปรับลดคาดการณ์ความต้องการน้ำมันสำหรับปี 2024 และ 2025 ลงอย่างต่อเนื่อง เช่นเดียวกับองค์กรตลาดพลังงานอื่น ๆ รวมถึงสำนักงานพลังงานระหว่างประเทศ (IEA)