Investing.com - ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวลงเมื่อวานนี้ (14 ม.ค. 2019) หลังจากจีนประกาศตัวเลขส่งออกที่ต่ำกว่าคาดการณ์ เพิ่มความกังวลต่อการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกในหมู่นักลงทุน ถึงแม้ราคาหุ้นในกลุ่มธนาคารในประเทศจะปรับขึ้นก็ตาม
ดัชนี Dow Jones Industrial Average ปิดตลาดลดลง 0.36% ขณะที่ S&P 500 ปิดลบ 0.59% และ NASDAQ Composite ปิดลบ 0.94%
Citigroup ได้เปิดเผยผลประกอบการรายไตรมาส ซึ่งดูเหมือนจะสร้างความมั่นใจให้นักลงทุนส่วนใหญ่ ทำให้ราคาหุ้นปิดบวก 4% หลังทำกำไรได้เกินเป้าถึงแม้จะมีรายได้ต่ำกว่าคาดการณ์
ผลประกอบการของ Citigroup ยังทำให้เกิดแรงซื้อในหุ้นธนาคาร อาทิ JPMorgan Chase & Co (NYSE:JPM) และ Wells Fargo & Company (NYSE:WFC) ทำให้หุ้นของธนาคารทั้งสองแห่งที่จะประกาศผลประกอบการในวันนี้ (15 ม.ค.) ปรับตัวขึ้น
ถึงแม้หุ้นกลุ่มการเงินและธนาคารจะปรับตัวขึ้นรวม 1% ตลาดหุ้นสหรัฐฯ โดยรวมยังคงปรับตัวลดลง โดยเฉพาะจากสถานการณ์ในหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี หลังจากจีนได้เปิดเผยตัวเลขการค้าซึ่งอยู่ในระดับต่ำสุดจากตัวเลขคาดการณ์ ซึ่งผนวกเข้ากับความกังวลถึงการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก
ราคาหุ้นของ Alphabet Inc Class C (NASDAQ:GOOG) และ Netflix Inc (NASDAQ:NFLX) ต่างปิดลบ 1% ขณะที่หุ้นของ Apple Inc (NASDAQ:AAPL) ปิดลบ 1.5%
ภาพรวมหุ้นในกลุ่มพลังงานของสหรัฐฯ ยังคงไม่สามารถปรับตัวขึ้นได้ ด้วยแรงกดดันจากราคาน้ำมันสหรัฐฯ ที่ปรับตัวลง 2.1% และความกังวลต่อการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน ซึ่งเป็นประเทศที่บริโภคน้ำมันมากเป็นอันดับ 2 ของโลก
นอกจากนี้ ราคาหุ้นของบริษัทก๊าซและไฟฟ้า Pacific Gas & Electric Co (NYSE:PCG) ดิ่งลง 52% หลังจากทางบริษัทประกาศจะประกาศล้มละลายแบบ Chapter 11 ต่อศาล หลังความเสียหายจากไฟป่าในรัฐแคลิฟอร์เนีย