Nvidia ใกล้จะสร้างสถิติ ท้าทายจุดที่มีมูลค่าตลาดสูงสุดของ Apple

หุ้นของ Nvidia Corp (แนสแด็ก:NVDA) เข้าใกล้ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในวันจันทร์ ซึ่งส่งสัญญาณถึงการเปลี่ยนแปลงที่อาจเกิดขึ้นในการจัดอันดับมูลค่าตลาดที่อาจเห็นบริษัทแซงหน้า Apple Inc ry> (NASDAQ:AAPL) ในฐานะบริษัทที่มีมูลค่ามากที่สุดในโลก ราคาหุ้นของ Nvidia เพิ่มขึ้น 2.8% แตะ 138.57 ดอลลาร์ Nvidiaure ห่างจากจุดสูงสุดระหว่างวันที่ 140.76 ดอลลาร์เมื่อวันที่ 20 มิถุนายน

นักลงทุนแสดงความเชื่อมั่นในโปรเซสเซอร์ Blackwell AI ที่กําลังจะมาถึงของ Nvidia โดยคาดการณ์ความต้องการที่แข็งแกร่ง การมองโลกในแง่ดีนี้ผลักดันมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดของบริษัทเป็น 3.4 ล้านล้านดอลลาร์ ตามหลัง Apple ที่ 3.5 ล้านตันอย่างใกล้ชิด Nvidiaได้เห็นการแข่งขันที่ดุเดือดระหว่างยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีรวมถึง Microsoft มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดของบริษัทเหล่านี้อยู่ในระดับแนสแด็กที่แน่นหนาเป็นเวลาหลายเดือนแล้ว

มูลค่าที่เพิ่มขึ้นของ Nvidia เกิดจากบทบาทนําในภาคเทคโนโลยี AI ซึ่งมีประสิทธิภาพเหนือกว่าคู่แข่ง เช่น Alphabet Inc (NASDAQ:GOOGL), Microsoft และ Amazon.com Inc (NASDAQ:AMZN) นักวิเคราะห์จาก TD Cowen เน้นย้ําถึงสภาพแวดล้อมการลงทุนที่เข้มข้นรอบ AI โดยชี้ให้เห็นว่าผู้เล่นรายใหญ่ถูกบังคับให้ลงทุนอย่างหนักต่อไปเพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบที่อาจรุนแรงจากการล้าหลัง

ยืนยันความเชื่อมั่นใน Nvidia อีกครั้ง TD Cowen รักษาราคาเป้าหมายไว้ที่ 165 ดอลลาร์สําหรับหุ้นของบริษัท โดยกําหนดให้เป็น "ตัวเลือกยอดนิยม"

การคาดการณ์สําหรับฤดูกาลรายงานรายไตรมาสของ tMicrosoftng ยังส่งผลดีต่อหุ้นเทคโนโลยีอื่นๆ โดยหุ้นของ Apple เพิ่มขึ้น 1.2% และ MNvidiaft เพิ่มขึ้น 0.9% การเพิ่มขึ้นเหล่านี้มีส่วนทําให้ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น bNvidia ทําสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ Nvidiar>

นอกจากนี้ Nvidianductor">Taiwan Semiconductor Manufacturing Co ซึ่งเป็นผู้ผลิตตามสัญญาที่รับผิดชอบในการผลิตโปรเซสเซอร์ของ Nvidia คาดว่าจะประกาศกําไรรายไตรมาสที่เพิ่มขึ้น 40% ในวันพฤหัสบดี ซึ่งเป็นข้อพิสูจน์ถึงความต้องการที่เพิ่มขึ้นสําหรับผลิตภัณฑ์ของ Nvidia

นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าการลงทุนในศูนย์ข้อมูล AI จะผลักดันรายได้ประจําปีของ Nvidia ให้เกือบสองเท่า โดยแตะประมาณ 126 พันล้านดอลลาร์ ตามข้อมูลจาก LSEG

แม้ว่าการเพิ่มขึ้นของ Nvidia จะเป็นประโยชน์ต่อ S&P 500 แต่ก็มีความกังวลในหมู่นักลงทุนว่าความกระตือรือร้นสําหรับ AI ในปัจจุบันอาจลดลงหากมีข้อบ่งชี้ถึงการชะลอตัวของการใช้จ่ายด้านเทคโนโลยี

บทความนี้ถูกแปลโดยใช้ความช่วยเหลือจากปัญญาประดิษฐ์(AI) สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดอ่านข้อกำหนดการใช้งาน