โดย Zhang Mengying
Investing.com – หุ้นเอเชียแปซิฟิกปรับตัวขึ้นเช้าวันพุธเนื่องจากตลาดมีความกังวลว่าเศรษฐกิจโลกจะสามารถทนต่อการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้หรือไม่
นิคเคอิ 225 ของญี่ปุ่นลดลง 1.11% เมื่อเวลา 22:16 น. ET (2:16 น. GMT)
KOSPI ของเกาหลีใต้ลดลง 1.61%
ASX 200 ในออสเตรเลียพุ่งขึ้น 1.28%
ดัชนีฮั่งเส็ง ของฮ่องกงลดลง 1.16%
เซี่ยงไฮ้คอมโพสิต ของจีนลดลง 0.38%และ ดัชนีส่วนประกอบ SZSE ลดลง 0.32% โดยในวันอังคาร ทางการจีนได้ประกาศลดเวลากักตัวสำหรับผู้ที่เดินทางเข้าประเทศ จาก 14 วันในสถานที่กักตัวที่รัฐจัดหาให้ ขั้นตอนดังกล่าวช่วยกระตุ้นความหวังของตลาดว่าจีนจะเปลี่ยนไปใช้มาตรการอื่นเพื่อควบคุมโควิด19 ซึ่งอาจจะลดความเสียหายทางเศรษฐกิจให้น้อยลง
S&P 500 ปรับตัวลงในขณะที่ ดัชนีที่ประกอบไปด้วยบริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่อย่าง Nasdaq 100 ทะยานขึ้น พผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปี ทรงตัวที่ 3.18% ราคาน้ำมันพุ่งทะลุ 112 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เนื่องจากอุปทานตึงตัว
นักลงทุนตั้งข้อสงสัยว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ อาจขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างรวดเร็วและต้องดำเนินการอย่างระมัดระวังเพื่อหลีกเลี่ยงภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ
“เฟดยังคงเชื่อว่าสามารถดำเนินการกระชับนโยบายทางการเงินและจะไม่กระทบต่อเศรษฐกิจมากเกินไป” เอมิลี่ ไวสส์ นักยุทธศาสตร์ด้านมหภาคของ State Street Corp. (NYSE: STT) กล่าวกับ บลูมเบิร์ก
“เรายังไม่แน่ใจว่าพวกเขาจะสามารถทำแบบนั้นได้ เพราะสิ่งที่เราเห็นในตลาดในช่วงเดือนที่ผ่านมาได้สะท้อนถึงภาวะเศรษฐกิจที่ถดถอย”
จอห์น วิลเลียมส์ ประธานเฟดแห่งนิวยอร์ก และแมรี เดลี แห่งซานฟรานซิสโก กล่าวว่า พวกเขาจำเป็นต้องลดอัตราเงินเฟ้อลง แต่ยืนยันว่าการทางออกของเศรษฐกิจที่บอบช้ำน้อยที่สุดนั้นจะยังคงเป็นไปได้
ด้านยุโรป คริสติน ลาการ์ด ประธานธนาคารกลางยุโรป(ECB) ยืนยันแผนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยไตรมาสแรกในเดือนกรกฎาคม