• รายงานการจ้างงานของสหรัฐฯ และรายงานการประชุม FOMC ของเฟดจะเป็นประเด็นสำคัญในสัปดาห์นี้
• AMD เป็นหุ้นที่น่าซื้อเนื่องจากเตรียมจัดแสดง GPU รุ่นถัดไปที่งาน CES 2025
• Constellation Brands เป็นหุ้นที่น่าขายเนื่องจากผลประกอบการไม่ดีนักและมีแนวโน้มที่น่าผิดหวัง
• กำลังหาไอเดียการเทรดอยู่รึปล่าว? สมัคร investingPro รับส่วนลด 50%!
หุ้นสหรัฐฯ ปิดตลาดในวันศุกร์ด้วยราคาที่สูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ขณะที่วอลล์สตรีทฟื้นตัวหลังจากเริ่มต้นปีใหม่ได้อย่างย่ำแย่ อย่างไรก็ตาม ดัชนีทั้งสามดัชนีต่างก็ปรับตัวลดลงเล็กน้อยในสัปดาห์นี้ โดยดัชนี S&P 500 ร่วงลงเป็นสัปดาห์ที่ 3 ในรอบ 4 สัปดาห์
ตลอดสัปดาห์ ดัชนีหุ้นชั้นนำอย่างดัชนี Dow Jones Industrial Average ร่วงลง 0.6% ดัชนี S&P 500 ร่วงลง 0.5% ขณะที่ดัชนี Nasdaq Composite ร่วงลง 0.5%
ที่มา: Investing.com
คาดว่าสัปดาห์เต็มแรกของปี 2025 จะเป็นสัปดาห์ที่มีเหตุการณ์สำคัญเกิดขึ้น เนื่องจากนักลงทุนยังคงประเมินแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยของเฟด ตลาดหุ้นสหรัฐจะปิดทำการในวันพฤหัสบดีเพื่อรำลึกถึงอดีตประธานาธิบดีจิมมี คาร์เตอร์
สิ่งที่สำคัญที่สุดในปฏิทินเศรษฐกิจคือรายงานการจ้างงานของสหรัฐในเดือนธันวาคมในวันศุกร์ ซึ่งคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจจะมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 154,000 ตำแหน่ง อัตราการว่างงานคาดว่าจะทรงตัวที่ 4.2%
ที่มา: Investing.com
ซึ่งจะมาพร้อมกับรายงานการประชุม FOMC ของธนาคารกลางสหรัฐในเดือนธันวาคม ความคาดหวังต่อการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนมกราคมลดลงเมื่อเร็ว ๆ นี้ โดยปัจจุบันโอกาสอยู่ที่ 11% ตามข้อมูล Fed Monitor Tool ของ Investing.com
ในส่วนอื่นๆ ในเอกสารรายงานผลประกอบการ มีผลประกอบการของบริษัทเพียงไม่กี่แห่งที่จะประกาศ ได้แก่ Delta Air Lines (NYSE:DAL), Walgreens Boots Alliance (NASDAQ:WBA), KB Home (NYSE:KBH) และ Constellation Brands (NYSE:STZ)
ขณะเดียวกัน งาน Consumer Electronics Show จะจัดขึ้นที่ลาสเวกัสตั้งแต่วันอังคารถึงวันศุกร์ โดยทุกสายตาจะจับจ้องไปที่ Jensen Huang ซีอีโอของ Nvidia (NASDAQ:NVDA) สำหรับคำปราศรัยสำคัญในงาน CES 2025 ของเขาในคืนวันจันทร์
ไม่ว่าตลาดจะเคลื่อนไหวไปทางใด ด้านล่างนี้ ฉันจะเน้นหุ้นหนึ่งตัวที่มีแนวโน้มเป็นที่ต้องการและอีกตัวหนึ่งที่อาจมีแนวโน้มลดลงอีกครั้ง แต่โปรดจำไว้ว่ากรอบเวลาของฉันคือ วันจันทร์ที่ 6 มกราคม ถึงวันศุกร์ที่ 10 มกราคม
หุ้นน่าซื้อ: Advanced Micro Devices
Advanced Micro Devices (NASDAQ:AMD) โดดเด่นในฐานะหุ้นที่น่าซื้อในสัปดาห์นี้ โดยงาน Consumer Electronics Show (CES) 2025 ที่กำลังจะมีขึ้นนี้ถือเป็นตัวเร่งสำคัญ
หุ้น AMD ปิดตลาดวันศุกร์ที่ 125.37 ดอลลาร์ บริษัทเซมิคอนดักเตอร์ที่มีฐานอยู่ในซานตาคลารา รัฐแคลิฟอร์เนีย มีมูลค่าตลาด 203.4 พันล้านดอลลาร์ตามการประเมินมูลค่าปัจจุบัน หุ้นเพิ่มขึ้น 3.8% เพื่อเริ่มต้นปี 2025 หลังจากขาดทุนประจำปีประมาณ 18% ในปี 2024
ที่มา: Investing.com
AMD กำลังเตรียมตัวจัดแสดง GPU รุ่นต่อไปในงาน CES 2025 tech conference ที่ลาสเวกัส ซึ่งคาดว่าจะเปิดตัว GPU รุ่นถัดไป
บริษัทมีกำหนดจัดงานแถลงข่าวในวันจันทร์ เวลา 14.00 น. EST โดยรองประธานอาวุโสและผู้จัดการทั่วไปของกลุ่มการประมวลผลและกราฟิก Jack Huynh น่าจะนำการ์ดจอ RDNA 4 ของบริษัทมาแสดง
สมาชิกคนอื่น ๆ ในทีมผู้นำของ AMD คาดว่าจะเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ที่เน้น พีซี ปัญญาประดิษฐ์ และยานยนต์ ตามข้อมูลจาก เว็บไซต์ของบริษัท
ในอดีต หุ้นของ AMD มักจะพุ่งสูงขึ้นในช่วงสัปดาห์ที่มีการนำเสนอผลิตภัณฑ์หลักของบริษัท ผู้ผลิตชิปรายนี้มีประวัติอันยาวนานในการได้รับการอัปเกรดจากนักวิเคราะห์หลายรายหลังจากการเปิดตัวผลิตภัณฑ์
ที่มา: InvestingPro
ตามที่ InvestingPro ชี้ให้เห็น AMD ถูกประเมินค่าต่ำเกินไป และนักวิเคราะห์ยังคงให้คะแนนซื้ออย่างแข็งแกร่ง โดยได้รับการสนับสนุนจากแนวโน้มผลกำไรที่สดใสและแนวโน้มการเติบโตของยอดขายที่แข็งแกร่ง ขอบคุณกระแสตอบรับจากผลิตภัณฑ์ AI รุ่นถัดไป
อย่าลืมตรวจสอบ InvestingPro เพื่อติดตามเทรนด์ตลาดและเบื้องลึกของเทรนด์ดังกล่าวต่อการซื้อขายของคุณ สมัครสมาชิกตอนนี้เพื่อรับส่วนลด 50% และจัดพอร์ตโฟลิโอของคุณให้เหนือกว่าคนอื่นหนึ่งก้าว!
หุ้นควรขาย: Constellation Brands
ตรงกันข้าม Constellation Brands เผชิญกับแนวโน้มที่ท้าทายก่อนรายงานผลประกอบการไตรมาส 3 ของปีงบประมาณ ซึ่งคาดว่าจะเติบโตเพียงเล็กน้อยทั้งในด้านรายได้และ EPS
แม้ว่าแบรนด์เบียร์ Corona และ Modelo จะมีความแข็งแกร่ง แต่กลุ่มไวน์และสุราก็ตกอยู่ภายใต้แรงกดดันเนื่องจากความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปและสภาพแวดล้อมเศรษฐกิจมหภาคที่ย่ำแย่
บริษัทเครื่องดื่มที่ตั้งอยู่ในโรเชสเตอร์ รัฐนิวยอร์ก มีกำหนดรายงานการอัปเดตรายไตรมาสก่อนตลาดหุ้นเปิดทำการในวันศุกร์ เวลา 7.30 น. ET นักวิเคราะห์ได้ปรับลดการคาดการณ์รายได้และกำไรลงเมื่อเร็ว ๆ นี้ โดยอ้างอิงถึงความต้องการของผู้บริโภคที่อ่อนแอและแนวโน้มที่ท้าทาย
ที่มา: InvestingPro
Constellation Brands คาดว่าจะทำกำไรได้ 3.32 ดอลลาร์ต่อหุ้น เพิ่มขึ้นเพียง 2.4% จาก EPS ที่ 3.24 ดอลลาร์ในช่วงเดียวกันของปีก่อน ในขณะเดียวกัน คาดการณ์ว่ารายได้จะเพิ่มขึ้นเล็กน้อย 2.8% เมื่อเทียบกับปีก่อนเป็น 2.54 พันล้านดอลลาร์ เนื่องจากยอดขายเบียร์ที่แข็งแกร่งชดเชยผลงานที่ย่ำแย่ของธุรกิจไวน์และสุรา
ด้วยปัจจัยกระตุ้นในระยะใกล้ที่จำกัดและแนวโน้มที่ระมัดระวัง Constellation Brands อาจทำผลงานต่ำกว่าเป้าหมาย ทำให้เป็นหุ้นที่ควรหลีกเลี่ยงในตอนนี้
นักลงทุนกำลังเตรียมรับมือกับความผันผวนหลังผลประกอบการ โดยตลาดอ็อปชั่นกำหนดราคาไว้ที่ 4.2% เมื่อพิจารณาจากแรงต้านในกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ไม่ใช่เบียร์ของ Constellation และความคาดหวังการเติบโตที่ไม่น่าประทับใจ หุ้นนี้จึงดูเหมือนจะเสี่ยงต่อการลดลงต่อไป
หุ้น STZ ปิดตลาดวันศุกร์ที่ 221.92 ดอลลาร์ ซึ่งไม่ไกลจากระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนเมษายน 2023 ด้วยมูลค่าปัจจุบัน Constellation Brands มีมูลค่าตลาดอยู่ที่ 40.3 พันล้านดอลลาร์ ทำให้เป็นบริษัทผู้ผลิตไวน์และโรงกลั่นเครื่องดื่มรายใหญ่เป็นอันดับสองของโลก รองจาก Diageo (LON:DGE) ราคาหุ้นลดลง 8% ในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา
ที่มา: Investing.com
โปรดสังเกตว่าในปัจจุบัน Constellation Brands มีคะแนนสุขภาพการเงิน InvestingPro ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยที่ 2.3 จาก 5.0 คะแนน ซึ่งเน้นย้ำถึงความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มผลกำไรในระยะสั้นและอัตราส่วนการประเมินมูลค่ารายได้ที่สูง
ไม่ว่าคุณจะเป็นนักลงทุนมือใหม่หรือเทรดเดอร์ที่มีประสบการณ์ การใช้ประโยชน์จาก InvestingPro จะช่วยปลดล็อกโอกาสการลงทุนมากมายในขณะที่ลดความเสี่ยงท่ามกลางสถานการณ์ตลาดที่ท้าทาย
สมัครวันนี้ รับส่วนลดสูงสุดถึง 50%
เข้าถึงเครื่องมือตัวช่วยนักลงทุนอีกมากมาย ดังนี้
-
เครื่องมือคัดกรองหุ้นขั้นสูง: ค้นหาหุ้นที่ดีที่สุดโดยอิงจากตัวกรองและเกณฑ์ที่เลือกไว้หลายร้อยรายการ
-
InvestingPro Fair Value: ค้นหาทันทีว่าหุ้นตัวใดมีราคาต่ำกว่าหรือสูงเกินไป
-
AI ProPicks: หุ้นที่ชนะการคัดเลือกโดย AI พร้อมผลงานที่ผ่านการพิสูจน์แล้ว
-
ไอเดียยอดนิยม: ดูว่านักลงทุนมหาเศรษฐี เช่น Warren Buffett, Michael Burry และ George Soros กำลังซื้อหุ้นตัวใดอยู่
Disclosure: ขณะที่เขียนบทความนี้ ฉันถือครองสถานะ Long ในดัชนี S&P 500 และ Nasdaq 100 ผ่าน SPDR® S&P 500 ETF (SPY) และ Invesco QQQ Trust ETF (QQQ) นอกจากนี้ ฉันยังมีสถานะ Long ในดัชนี Invesco Top QQQ ETF (QBIG), Invesco S&P 500 Equal Weight ETF (RSP) และ VanEck Vectors Semiconductor ETF (SMH) อีกด้วย
ฉันปรับสมดุลพอร์ตโฟลิโอของหุ้นแต่ละตัวและ ETF เป็นประจำโดยพิจารณาจากการประเมินความเสี่ยงอย่างต่อเนื่องของทั้งสภาพแวดล้อมเศรษฐกิจมหภาคและสถานะทางการเงินของบริษัท
มุมมองที่กล่าวถึงในบทความนี้เป็นเพียงความคิดเห็นของผู้เขียนเท่านั้น และไม่ควรใช้เป็นคำแนะนำในการลงทุน
ติดตาม Jesse Cohen บน X/Twitter @JesseCohenInv เพื่อรับการวิเคราะห์และข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับตลาดหุ้นเพิ่มเติม