โดย Oliver Gray
Investing.com -- ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ซื้อขายสูงขึ้นในช่วงต้นของวันศุกร์ หลังเกิดช่วงลบระหว่างดัชนีอ้างอิงในชั่วข้ามคืนท่ามกลางการค้า volatile ที่นักลงทุนหมุนเวียนออกจากสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงท่ามกลางภาวะตึงตัวของธนาคารกลาง นโยบายการเงินของธนาคาร
ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ปิดเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยที่ 34,160.78
S&P 500 ลดลง 0.5% ที่ 4,326.51 และ Nasdaq Composite ลดลง 1.4% เป็น 13,352.78
สำหรับบรรดาหุ้นในตลาด หุ้นเทคโนโลยีรายใหญ่จบแบบผันผวน โดย Amazon.com Inc (NASDAQ: AMZN) เพิ่มขึ้น 0.55%, Microsoft Corporation (NASDAQ: MSFT) เพิ่มขึ้น 1.05%, Twitter Inc (NYSE) ) : TWTR) เพิ่มขึ้น 0.65%, Netflix Inc (NASDAQ: NFLX) ดีดตัวขึ้น 7.5% ขณะที่ NVIDIA Corporation (NASDAQ: NVDA) ลดลง 3.64% ขั้นสูง Micro Devices Inc (NASDAQ: AMD) ลดลง 7.33% Alphabet Inc (NASDAQ: GOOGL) ลดลง 0.18% และ Block Inc (NYSE: SQ) ลดลง 4.83 %
ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าร่วงลง โดย Tesla Inc (NASDAQ: TSLA) ลดลง 11.55%, Rivian Automotive Inc (NASDAQ: RIVN) ลดลง 10.5% และ Lucid Group Inc (NASDAQ: LCID) ลดลง 14.1%
Apple Inc (NASDAQ: AAPL) พุ่งขึ้น 5.37% หลังจาก รายงานผลประกอบการ สูงที่สุดในไตรมาสเดียว โดยยอดขายเติบโตขึ้นกว่า 11% ท่ามกลางความท้าทายด้านอุปทาน และผลกระทบจากโรคระบาด
Visa Inc (NYSE: V) เพิ่มขึ้น 5.26% หลังจากปรับตัวลง รายงานรายได้ ที่ออกมาดีเกินคาด, Western Digital Corporation (NASDAQ: WDC) 8.53% แม้จะแข็งแกร่ง รายงานรายได้ ในขณะที่ Robinhood Markets Inc (NASDAQ: HOOD) ร่วง 11.11% หลังจากที่บริษัท รายงานผลประกอบการ คาดการณ์รายได้ที่น่าผิดหวัง สำหรับไตรมาสแรกของปี 2022 ขณะที่รายรับของบริษัทแสดงให้เห็นว่ามีผู้ใช้งานลดลง
สำหรับข่าวด้านนโยบาย เฟดระบุเมื่อวันพุธว่าอีกไม่นานอาจขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 3 ปี ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของนโยบายการเงินที่เข้มงวด
ด้านตลาดตราสารหนี้ อัตราผลตอบแทน พันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปี อยู่ที่ 1.803%