โดย Gina Lee
Investing.com – ตลาดหุ้นในเอเชียแปซิฟิกร่วงลงในเช้าวันพุธ เนื่องจากนักลงทุนเห็นข้อมูลจากจีนที่ออกมาอ่อนแอกว่าที่คาด นอกจากนี้นักลงทุนยังรอผลกระทบของตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ที่ออกมาต่ำกว่าที่คาดไว้เมื่อคืนนี้ เพื่อคำนวณไทม์ไลน์ที่ธนาคารกลางสหรัฐเพื่อเริ่มการลดวงเงินซื้อสินทรัพย์
ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิต ของจีนลดลง 1.42% เมื่อเวลา 22:18 น. ET (2:18 น. GMT) และ ดัชนีองค์ประกอบ SZSE ลดลง 0.73% หลังประเทศจีนเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจล่าสุดเมื่อช่วงต้นของวัน แสดงให้เห็นว่า การผลิตเชิงอุตสาหกรรม เติบโตต่ำกว่าที่คาด 5.3% เมื่อเทียบเป็นรายปี ขณะที่ การลงทุนในสินทรัพย์คงที่ของจีน เติบโต 8.9% เมื่อเทียบเป็นรายปีในเดือนสิงหาคม ขณะที่ ยอดค้าปลีก เติบโต 2.5% เมื่อเทียบเป็นรายปี
ดัชนีฮั่งเส็ง ของฮ่องกงลดลง 0.79%
Nikkei 225 ของญี่ปุ่นลดลง 0.82% และ KOSPI ของเกาหลีใต้ลดลง 0.06%
ในออสเตรเลีย ASX 200 ลดลง 0.55%
ในขณะเดียวกัน ความพยายามที่จะควบคุมการระบาดของโควิด-19 ล่าสุดในมณฑลฝูเจี้ยนของจีนยังคงดำเนินต่อไป ประกอบกับการบังคับใช้กฎระเบียบที่เข้มงวดล่าสุดและสถานการณ์หนี้ของ China Evergrande Group (HK:3333) ก็ยังคงอยู่ในเรดาร์ของนักลงทุน
ในขณะเดียวกัน ข้อมูลของสหรัฐฯ ที่เผยแพร่เมื่อวันอังคารแสดงให้เห็นว่าดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เพิ่มขึ้น 4% เมื่อเทียบปีต่อปี และ 0.1% เมื่อเทียบเป็นรายเดือน ในเดือนสิงหาคม ข้อมูลยังแสดงให้เห็นว่า CPI เพิ่มขึ้น 5.3% ปีต่อปี และ 0.3% เดือนต่อเดือน ตามลำดับ
ตัวเลขที่ออกมาต่ำกว่าที่คาดไว้สนับสนุนข้อโต้แย้งที่ว่า แรงกดดันจากเงินเฟ้อในปัจจุบันอาจเป็นเพียงสถานการณ์ชั่วคราว แต่นั่นก็ยังทำให้ภาพรวมไม่ชัดเจน
นักลงทุนกำลังประเมินว่าตัวเลขล่าสุดจะกระตุ้นให้เฟดเริ่มลดวงเงินซื้อสินทรัพย์ลงหรือไม่ แต่ความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบจากผู้ติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์เดลต้า กลับมามีผลต่อการเปิดเศรษฐกิจรอบใหม่ยังคงมีอยู่ จากผลสำรวจล่าสุดของ Bank of America (NYSE:BAC) พบว่า ผู้จัดการกองทุนประเมินสถานการณ์แย่กว่าคิด แต่ยังไม่หมดหวังในตลาดหุ้น
บางคนไม่เชื่อว่าแรงกดดันด้านเงินเฟ้อจะเกิดขึ้นเพียงชั่วคราว
“ณ จุดนี้เป็นการยากที่จะโต้แย้งว่าเรื่องทั้งหมดนี้จะเป็นเพียงสถานการณ์ชั่วคราว .... ทว่ายังมีผลกระทบจากอุปทาน ซึ่งฉันคิดว่าตลาดอาจจะย่ำแย่” ดาน่า ดี ออเรีย หัวหน้าเจ้าหน้าที่ฝ่ายการลงทุนของ Inc. กล่าวกับ Bloomberg (NYSE:ENV)
ข่าวสารอื่น ๆ ที่อยู่ในเรดาห์ของนักลงทุนในปี 2564 ในไตรมาสสุดท้าย ได้แก่ การอภิปรายเกี่ยวกับเพดานหนี้ของสหรัฐ แพ็คเกจภาษีของประธานาธิบดีโจ ไบเดน การใช้จ่ายด้านโครงสร้างพื้นฐาน และการลดสินทรัพย์ของธนาคารกลาง