Cyber Monday Deal: ลดสูงสุด 60% InvestingProรับส่วนลด

3 เรื่องที่นักลงทุนไทยควรรู้สำหรับวันนี้ ( 14 ส.ค.)

เผยแพร่ 14/08/2563 14:38
© Reuters.
SETI
-
TOP
-
THCOM
-

โดย Detchana.K

Investing.com- เปิดตลาดสัปดาห์หน้ามีตัวเลขสำคัญที่นักลงทุนต้องจับตาดู นั่นคือตัวเลข GDP ของไทยในไตรมาสสองของปีนี้ จากสภาพัฒน์ฯ ซึ่งคาดการณ์ว่าน่าจะติดลบ 15% จากผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 อย่างไรก็ตามนักวิเคราะห์เห็นว่ามุมมองทั้งเศรษฐกิจและกําไรบริษัทจดทะเบียน น่าจะผ่านพ้นจุดต่ำสุดไปแล้วและตลาดหุ้นไทยน่าจะสดใสขึ้นได้หลังจากนี้ ติดตามรายละเอียดพรอมประเด็นอื่นที่นักลงทุนไทยควรรู้สำหรับวันนี้

1.วันจันทร์รอตัวเลข GDP ไทยไตรมาสสองจากสภาพัฒน์ คาด -15% YoY

บล. เอเชียพลัสให้ข้อมูลว่า วันจันทร์หน้า 17 ส.ค. เวลา 9.30 น. สภาพัฒน์ฯ จะรายงาน GDP Growth 2Q63 ASPS คาดหดตัว 15%yoy และหดตัว 18.9 %qoq อยู่ที่ 2.26 ล้านล้านบาท (เทียบกับBloomberg Consensus คาดเฉลี่ย 13.7 %yoy และ -12 %qoq) โดย ASPS ประเมินงวด 2Q63 เป็น Bottom ของปีนี้แล้วและงวด 3Q-4Q63 เศรษฐกิจจะ
ค่อยๆฟื้นตัว QoQ เนื่องจาก Reopen กิจกรรมเศรษฐกิจในประเทศ แต่ yoy คาดหดตัว8.5%yoy และ 6%ตามลําดับ เนื่องจากประเทศไทยพึ่งพาภาคต่างประเทศ คือ ส่งออก
ราว 68% ของ GDP และ ท่องเที่ยว 20%GDP

ซึ่งทั้ง 2 ภาคยังชะลอตัวอย่างไรก็ตามหลังประกาศตัวเลข GDP 2Q63 แล้ว ASPS ประเมินว่าตลาดน่าจะกลับมาให้น้ำหนักความคาดหวังมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจชุดใหม่ ของทีม ครม.เศรษฐกิจใหม่ซึ่งวันที่ 17 ส.ค. รัฐมนตรีคลังจะเข้ากระทรวงและเริมออกมาตรการ โดย ASP คาดว่าจะเป็นมาตรการที่ครอบคลุมทุกกลุ่ม โดยเฉพาะการบริโภค การท่องเที่ยว, ภาคอสังหาริมทรัพย์, ภาคยานยนต์, การพักชําระหนี้ และตลาดทุน เป็นต้น

2 . ตลาดหุ้นไทยคาดฟื้นตัวหลังผ่านพ้นจุดต่ำสุดใน 2Q63

ภาพรวมตลาดหุ้นยังถูกกดดันจากการรายงานผลประกอบการงวด 2Q63 ที่เข้มข้นขึ้น ซึ่งล่าสุดมีการรายงานมาแล้ว 385 บริษัท (คิดเป็นสัดส่วน 81 % ของมูลค่าตลาด) มีกำไรสุทธิรวมอยู่ ที่ 8.4 หมื่นล้านบาท ลดลง 5.3 %QoQ และลดลง55%YoY

บล. เอเชียพลัสให้ความเห็นว่าหากพิจารณาภาพรวมกําไรสุทธิของบริษัทจดทะเบียนปี 2563 ล่าสุดอยู่ที 6.48 แสนล้านบาท คิดเป็น EPS63F เหลือเพียง 59.85 บาท/หุ้น) อย่างไรก็ ตามคาดประเด็นดังกล่าว ถูกสะท้อนลงไปในตลาดหุ้นพอสมควรแล้ว ดูได้จากตลาดหุ้น โลก(MSCI World Index) เพิ่มขึ้น 3.7 %(mtd) ขณะที่ ตลาดหุ้นไทย Underperform โดยปรับตัวขึ้นเพียง 1.4 %(mtd) เท่านั้น

หากพิจารณาบริษัท จดทะเบียนหลายบริษัท ที่ทําผลประกอบการงวด Q63 ออกมาเติบ โตได้ดี ทั้ง QoQ และ YoY คื อ THCOM, NWR, TU,  (BK:TOP), AP, DELTA, SINGER,DCC, GPSC, TASCO และ SC รวมถึงยังมีหุ้นที่ถูกปรับประมาณการกําไรขึ้นนับตั้งแต่ต้นเดือน ส.ค. คือ  (BK:THCOM), SPVI, DCC, RS, QH และ TKN เป็นต้น สะท้อนให้เห็นว่ามี
หลายบริษัทที่ประกาศงบ 2Q63 ออกมาดีกว่าคาด และคาดฟื้นในช่วงครึงหลังของปี คาดเป็นปัจจัยหนุนต่อ SET Index ตราบที่สภาพคล่องส่วนเกินในระบบยังมีปริมาณสูง

มุมมองทั้งเศรษฐกิจและกําไรบริษัทจดทะเบียน น่าจะผ่านพ้นจุดต่ำสุดไปแล้ว และน่าจะทยอยฟื้นตัวต่อจากนี้ ทําให้สภาพคล่องส่วนเกินที่ล้นระบบน่าจะทยอยเข้ามาลงทุนใน
ตลาดหุ้นทั้งส่วนของนักลงทุนต่างชาติ และนักลงทุนสถาบันดังนี้

Fund Flow ต่างชาติ มีโอกาสสลับ เข้ามาบ้างในช่วงที่เหลือของปี จาก 3 สาเหตุหลักๆ คือ- สัดส่วนการถือครองหุ้นไทยจากต่างชาติอยุ่ในระดับต่ำต่างชาติขายหุ้น
ไทยมาแล้วกว่า 2.32 แสนล้านบาท (ytd) จนทําให้สัดส่วนการถือครองหุ้นไทยจากต่างชาติ (Foreign Holding) ลดลงเหลือ เพียง 26.13 % ต่ำสุดเป็นประวัติการณ์

และแรงขายหุ้นไทยจากนักลงทุนต่างชาติเริ่มเบาลงทุกๆ เดือน สังเกตได้จากเดือน มี.ค. ต่างชาติเคยขายสุทธิหุ้นไทยสูงถึง 7.8 หมื่นล้านบาท ลดลงมาเรื่อยๆจนเดือน ส.ค. (mtd) เริ่มมีการสลับเข้ามาซื้อบ้าง และภาพรวมขายสุทธิเพียง 5.1 พันล้านบาทเท่านั้น

3.วันพรุ่งนี้ รอดูการเจรจาระหว่างสหรัฐ-จีน
ตลาดหุ้นทั่วโลกตลอดสัปดาห์ปรับเพิ่มขึ้นตอบรับข่าวบวก จากประเด็น พัฒนาการความคืบหน้าวัคซีน Covid-19 ล่าสุด คือ รัสเซีย, การผ่อนคลายกิจกรรมเศรษฐกิจ อาทิ EU ให้
ประเทศเข้าประเทศ ฯลฯ อย่างไรก็ตามตลาดหุ้นเริ่มชะลอการปรับขึ้น โดยยังรอ วันเสาร์ 15 ส.ค. การประชุมทบทวน (Review) ข้อตกลงการค้าเฟส 1 ระหว่างสหรัฐกับจีน
เพื่อติดตามความคืบหน้าของข้อตกลงการค้าเฟส 1 ที่ทั้ง 2 ประเทศลงนามไว้เมื่อเดือน ม.ค. 2563 โดยทาง ASPS ประเมินไว้ 2 แนวทางคือ

แนวทางแรก สหรัฐกลับมากดดันจีนอีกครั้ง : คาดเป็นสิ่งที่สหรัฐสามารถทําได้ในรูปแบบภาษีนำเข้า(Tariff) เช่น 1.) การขึ้นภาษีนำเข้ารอบ 4.2 วงเงิน 1.6 แสนล้านเหรียญฯ 2.) ปรับขึ้นภาษีนำเข้ารอบ 4.1 กลับไปอยู่ในระดับ 15% จากปัจจุบันอยู่ที่ 7.5% ฯลฯ : มีโอกาสเกิดขึ้นได้ เนื่องจาก ในข้อตกลงการค้า เฟส 1 ดังกล่าว จีนทําสัญญาจะนําเข้าสินค้าจากสหรัฐวงเงินราว 7.7 หมื่นล้านเหรียญในปี 2563 แต่ข้อเท็จจริง คือ เศรษฐกิจจีนได้รับผลกระทบจาก Covid-19 ทําให้นําเข้าสินค้าจากสหรัฐน้อยกว่าสัญญาที่ตกลงไว้ และเป็นการเรียกคะแนนเสียงความนิยมให้กับประธานาธิบดีทรัมป์


หากเกิดขึ้นคาดจะเป็น Sentiment เชิงลบต่อตลาดหุ้นทั่วโลก และ หุ้นที่อิง Global อาทิ หุ้นพลังงาน และหุ้นส่งออก

แต่หากตกลงเจรจากันได้ : ASPS คาดมีโอกาสเกิดขึ้นเช่นกัน ในช่วงหลัง ๆ ประธานาธิบดีทรัมป์ ไม่ได้แสดงท่าทีหรือแถลงสือถึงการกีดกันการค้ากับจีนหากเกิดขึ้นคาดจะเป็น Sentiment เชิงบวกต่อตลาดหุ้นทั่วโลก

ความคิดเห็นล่าสุด

การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย