InfoQuest - ดัชนีดาวโจนส์พลิกดีดตัวสู่แดนบวก หลังเปิดตลาดร่วงลงกว่า 100 จุด ขณะที่นักลงทุนเทขายทำกำไรจากการที่ตลาดพุ่งขึ้นในการซื้อขายวานนี้
ณ เวลา 23.38 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 43,253.21 จุด บวก 14.16 จุด หรือ 0.03%
ดัชนีดาวโจนส์ปิดตลาดวานนี้ดีดตัวขึ้นกว่า 100 จุด ขานรับตัวเลขเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง ซึ่งช่วยคลายความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยในสหรัฐ
นอกจากนี้ ดัชนีดาวโจนส์มีแนวโน้มปรับตัวขึ้นในสัปดาห์นี้ โดยขณะนี้พุ่งขึ้น 0.9% นับตั้งแต่ต้นสัปดาห์ ซึ่งจะทำให้ดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวขึ้นติดต่อกัน 6 สัปดาห์ ทำสถิติช่วงขาขึ้นรายสัปดาห์ยาวนานที่สุดในปีนี้
ตลาดจับตาถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยสหรัฐ
นักลงทุนยังคงคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุม 2 ครั้งที่เหลือในปีนี้ โดยจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ทั้งในเดือนพ.ย.และเดือนธ.ค. แม้มีการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง
ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 92.3% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 4.50-4.75% ในการประชุมเดือนพ.ย. รวมทั้งให้น้ำหนัก 77.3% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 4.25-4.50% ในการประชุมเดือนธ.ค.
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกปรับตัวขึ้น 0.4% ในเดือนก.ย. เมื่อเทียบรายเดือน สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 0.3% หลังจากเพิ่มขึ้น 0.1% ในเดือนส.ค.
กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรก ลดลง 19,000 ราย สู่ระดับ 241,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นการลดลงมากที่สุดในรอบ 3 เดือน และต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 262,000 ราย
หากเฟดลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในเดือนพ.ย.และเดือนธ.ค.ตามคาด ก็จะสอดคล้องกับคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยนโยบาย (Dot Plot) ของเจ้าหน้าที่เฟด ซึ่งส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.50% ภายในสิ้นปีนี้
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่เฟดส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ย 1.00% ในปี 2568 และลดอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในปี 2569
โดยรวมแล้ว Dot Plot บ่งชี้ว่า เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีก 2.00% หลังการปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมวันที่ 18 ก.ย.