Investing.com - หุ้นส่วนใหญ่ปรับลดลงในตลาดเอเชียวันนี้ โดยตลาดจีนเป็นผู้นำการขาดทุนเนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้ากับตะวันตกยังคงมีอยู่ ขณะเดียวกันความคาดหวังเกี่ยวกับสัญญาณอัตราดอกเบี้ยก็ยังทำให้ตลาดมีความลังเล
ตลาดภูมิภาคส่วนใหญ่ไม่ได้รับแรงหนุนเชิงบวกจากวอลล์สตรีทเมื่อวันศุกร์ หลังเดิมพันเกี่ยวกับการลดอัตราดอกเบี้ยนั้นทำให้ S&P 500 และ NASDAQ คอมโพสิต ทำสถิติสูงสุดใหม่ แต่ความคาดหวังว่าจะมีสัญญาณใหม่เกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยโดย เจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐและข้อมูลเงินเฟ้อในสัปดาห์นี้ได้ทำให้ความคาดหวังดังกล่าวลดลง
หุ้นฟิวเจอร์สสหรัฐปรับตัวลงในตลาดเอเชียวันนี้ ด้านข้อมูลเศรษฐกิจระดับปานกลางจากญี่ปุ่นและออสเตรเลียก็ยังเป็นปัจจัยกดดันหุ้นในภูมิภาคอีกเช่นกัน
หุ้นจีนดิ่งจากความกังวลทางการค้า
ดัชนี CSI 300 และ เซี่ยงไฮ้คอมโพสิต ของจีนลดลง 0.3% และ 0.5% ตามลำดับ ขณะที่ดัชนี ฮั่งเส็ง ของฮ่องกงลดลง 1.5%
ความเชื่อมั่นต่อจีนยังคงเป็นลบอย่างมากหลังจากที่สหภาพยุโรป (EU) กำหนดอัตราภาษีที่สูงในการนำเข้ารถยนต์ไฟฟ้าจากจีน แม้ว่าจะมีการคัดค้านจากปักกิ่งและจีนยังได้ยกประเด็นความเป็นไปได้ของสงครามการค้ากับ EU เกี่ยวกับภาษีดังกล่าวอีกด้วย
การเก็บภาษีของ EU สะท้อนถึงความเคลื่อนไหวที่คล้ายกันในสหรัฐฯ และเพิ่มความกังวลว่าความสัมพันธ์ทางการค้าที่เลวร้ายลงกับจีนอาจทำให้ปักกิ่งนำมาตรการตอบโต้มาใช้ได้
หุ้นจีนยังคงฟื้นตัวจากการขาดทุนอย่างหนักในปี 2024 ตลอดช่วงสองเดือนที่ผ่านมา โดยความสนใจในเดือนกรกฎาคมจะโฟกัสไปที่การประชุม Third Plenum ของพรรคคอมมิวนิสต์จีน โดยการประชุมของเจ้าหน้าที่ระดับสูงดังกล่าวคาดว่าจะได้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม
ข้อมูล ดุลการค้า และ เงินเฟ้อ ของจีนมีกำหนดการณ์จะประกาศในปลายสัปดาห์นี้
หุ้นญี่ปุ่นใกล้ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์
ดัชนี Nikkei 225 และ TOPIX ของญี่ปุ่นลดลงเล็กน้อยในวันนี้ หลังขยับใกล้ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
ความแข็งแกร่งของหุ้นญี่ปุ่นได้รับแรงหนุนจากการซื้อของต่างประเทศเป็นหลัก เนื่องจากเงินเยนร่วงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 38 ปี ขณะเดียวกัน ความสงสัยเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางญี่ปุ่น ท่ามกลางการเติบโตที่อ่อนแอของเศรษฐกิจยังสร้างมุมมองที่เป็นบวกต่อหุ้นท้องถิ่นอีกด้วย
ข้อมูลในวันนี้ได้สร้างความสงสัยเกี่ยวกับแนวโน้มดังกล่าว เนื่องจาก รายได้เงินสดเฉลี่ย ในประเทศเติบโตในอัตราที่เร็วที่สุดในรอบ 31 ปีในเดือนพฤษภาคม ซึ่งบ่งชี้ว่าเงินเฟ้อและการบริโภคอาจเพิ่มขึ้นในเดือนต่อ ๆ ไป
ญี่ปุ่นยังมี ดุลบัญชีเดินสะพัด ที่เกินคาดอีกด้วย ขณะที่ การให้สินเชื่อของธนาคาร ก็เพิ่มขึ้นมากกว่าที่คาดไว้
ตลาดเอเชียโดยรวมส่วนใหญ่ยังคงซบเซา โดยความกังวลเกี่ยวกับจีนได้ทำให้ ASX 200 ของออสเตรเลียลดลง 0.4% ขณะที่การลดลงของราคาสินค้าโภคภัณฑ์ยังส่งผลกระทบต่อหุ้นเหมืองแร่รายใหญ่อีกด้วย
ข้อมูลแสดงให้เห็นว่า สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย ในออสเตรเลียหดตัวอย่างไม่คาดคิดในเดือนพฤษภาคม ขณะที่ สินเชื่อบ้านเพื่อการลงทุน ก็หดตัวเช่นกัน
KOSPI ของเกาหลีใต้ขยับลง 0.1% ขณะที่ดัชนีอินเดียฟิวเจอร์ส Nifty 50 มีแนวโน้มเปิดตลาดแบบเป็นบวกเล็กน้อย หลังจากที่ดัชนีนี้ทำสถิติสูงสุดในสัปดาห์ที่แล้ว