Investing.com - BofA Securities เปิดเผยว่าลูกค้าของบริษัทยังคงซื้อหุ้นสหรัฐฯ ต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 7 โดยในช่วงเวลาดังกล่าวที่ดัชนี S&P 500 ลดลง 2% มีเงินไหลเข้าสุทธิถึง 10 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นตัวเลขสูงสุดอันดับสองนับตั้งแต่ปี 2008 และมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนมกราคม 2017
เช่นเดียวกับสัปดาห์ที่ผ่านมา การซื้อขายกระจายไปทั้งในหุ้นเดี่ยวและกองทุน ETF โดยมีการไหลเข้าสูงขึ้นในหุ้นเดี่ยว โดยหุ้นขนาดใหญ่ได้รับความสนใจเป็นหลัก ขณะที่หุ้นขนาดเล็กมีเงินไหลเข้าที่น้อยกว่า
นักลงทุนสถาบันและรายย่อยได้เพิ่มการถือครองหุ้นขึ้นอีก ซึ่งเป็นสัปดาห์ที่ 3 สำหรับนักลงทุนสถาบัน และสัปดาห์ที่ 2 สำหรับนักลงทุนรายย่อย ในทางกลับกัน กองทุนเฮดจ์ฟันด์กลับเป็นผู้ขายส่วนใหญ่ต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 2
ค่าเฉลี่ยการไหลเข้าสุทธิ 4 สัปดาห์จากลูกค้าสถาบันแตะระดับสูงสุดในรอบ 9 เดือน ซึ่งสะท้อนถึงรูปแบบปกติที่เกิดขึ้นหลังจากการขายขาดทุนทางภาษีของกองทุนรวมในเดือนตุลาคม
“ลูกค้ารายย่อยมักเป็นผู้ขายรายใหญ่ในเดือนธันวาคมจากการขายเพื่อลดภาษี เทียบกับการเป็นผู้ซื้อสุทธิในเดือนมกราคม ขณะที่เทรดเดอร์กลุ่มนี้เป็นผู้ซื้อ ETF ในเดือนนี้ แต่ก็ขายหุ้นรายตัวออกไป แม้ว่าจะน้อยกว่าค่าเฉลี่ยของเดือนธันวาคม” นักกลยุทธ์ของ BofA ที่นำโดย Jill Carey Hall กล่าว
ในขณะเดียวกัน การซื้อหุ้นคืนของบริษัทจากลูกค้า BofA นั้นชะลอตัวลงในสัปดาห์นี้ แต่ยังคงสูงกว่าค่าเฉลี่ยตามฤดูกาลเมื่อเทียบกับมูลค่าตลาดของ S&P 500 ในปีนี้ การซื้อหุ้นคืนของบริษัทมีแนวโน้มจะทำสถิติสูงสุดเมื่อเทียบกับมูลค่าตลาด
ลูกค้าสนใจซื้อหุ้นใน 6 กลุ่มจาก 11 กลุ่มอุตสาหกรรม โดย Technology กับ Communication Services และ Industrials ถือเป็นกลุ่มที่มีการไหลเข้ามากที่สุด
กลุ่ม Technology และ Communication Services มีการไหลเข้าสม่ำเสมอในช่วง 7 และ 8 สัปดาห์ที่ผ่านมา ตามลำดับ ขณะที่กลุ่ม Industrials มีการไหลเข้าสูงสุดนับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2022 กลุ่ม Consumer Staples ก็ได้รับความสนใจมากเช่นกัน โดยมีการไหลเข้าสูงสุดนับตั้งแต่เดือนเมษายน
ในทางตรงกันข้าม กลุ่ม Health Care และ Consumer Discretionary มีการไหลออกสูงสุด โดยเฉพาะกลุ่ม Health Care ซึ่งมีการถอนเงินออกใน 4 จาก 5 สัปดาห์ที่ผ่านมา
สำหรับกองทุน ETF การซื้อกระจายไปยัง 8 กลุ่มอุตสาหกรรม โดยกองทุน ETF ของ Industrials และ Technology เป็นผู้นำในการไหลเข้าสุทธิ ขณะที่กองทุน ETF ของกลุ่ม Financial และ Real Estate เป็นผู้นำในการไหลออก