Investing.com -- หุ้นเอเชียส่วนใหญ่เคลื่อนไหวในกรอบทรงตัวสู่ระดับต่ำในวันพุธ เนื่องจากตลาดยังคงอยู่ท่ามกลางการเติบโตที่ชะลอตัวในจีนและวิกฤตเพดานหนี้ของสหรัฐฯ ขณะที่ดัชนีนิคเคอิของญี่ปุ่นดีดตัวขึ้นอีกจากการเติบโตทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งเกินคาดในไตรมาสแรก
ดัชนีนิคเคอิ 225 พุ่งขึ้น 0.9% สู่ระดับสูงสุดในรอบ 20 เดือน ซึ่งขยายขอบเขตการเพิ่มขึ้นล่าสุด เนื่องจากข้อมูลแสดงให้เห็นว่า ดัชนี GDP ของญ๊่ปุ่น เติบโตมากกว่าที่คาดไว้ในไตรมาสแรก ซึ่งได้รับความช่วยเหลือส่วนใหญ่จากการใช้จ่ายของผู้บริโภคที่แข็งแกร่งและการท่องเที่ยวขาเข้า
แต่แนวโน้มเศรษฐกิจยังคงย่ำแย่ ท่ามกลางการชะลอตัวอย่างต่อเนื่องในตลาดส่งออกที่ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่นในภาคตะวันตก
ถึงกระนั้น รายงานผลประกอบการที่แข็งแกร่งประกอบกับสัญญาณที่ผันผวนจากธนาคารแห่งประเทศญี่ปุ่น ทำให้ดัชนีนิคเคอิทำผลงานได้ดีกว่าดัชนีอื่น ๆ ในเอเชียอย่างมากในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา
หุ้นเอเชียในวงกว้างร่นถอยลงในวันพุธ โดยดัชนี CSI 300 และ เซี่ยงไฮ้คอมโพสิต ของจีน ลดลง 0.2% และ 0.4% ตามลำดับ ความเชื่อมั่นที่มีต่อจีนได้รับผลกระทบจากตัวเลขทางเศรษฐกิจที่อ่อนแอในเดือนเมษายน ซึ่งบ่งชี้ว่าการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจหลังโควิดในประเทศกำลังหมดแรง
หุ้นอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ของจีนร่วงลงอีกในวันพุธ หลังจากข้อมูลแสดงให้เห็นว่า ราคาบ้านในจีน ลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 11 ในเดือนเมษายน
การขาดทุนในหุ้นจีนเมื่อเร็ว ๆ นี้ทำให้ดัชนีอ้างอิงทั้งสองร่วงลงอย่างมาก เนื่องจากตลาดได้พิจารณาถึงโอกาสที่เศรษฐกิจจีนจะฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งในปีนี้ว่ามีความเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหน
ความอ่อนแอในจีนได้ส่งผลต่อตลาดอื่น ๆ ในเอเชีย โดยดัชนี ฮั่งเส็ง ของฮ่องกงลดลง 0.5% ASX 200 ของออสเตรเลียลดลง 0.5% นอกจากนี้ยังได้รับแรงกดดันจาก ข้อมูลการเติบโตของค่าจ้าง ที่อ่อนแอกว่าที่คาด
ตลาดหุ้นเอเชียอื่น ๆ ฟื้นตัวกลับมาได้จากการขาดทุนล่าสุด โดยดัชนี KOSPI ของเกาหลีใต้เพิ่มขึ้น 0.6% ขณะที่ดัชนี Taiwan Weighted เพิ่ม 1.1%
แต่ความเชื่อมั่นยังคงอยู่ท่ามกลางความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการผิดนัดชำระหนี้ของสหรัฐฯ เนื่องจากการเจรจาระหว่างผู้กำหนดนโยบายยังคงดำเนินต่อไปเรื่องการเพิ่มเพดานหนี้ก่อนกำหนดเส้นตายวันที่ 1 มิถุนายน หุ้นในภูมิภาคได้รับแรงหนุนจากวอลล์สตรีท เนื่องจากข้อมูล ดัชนียอดค้าปลีก และ การผลิตภาคอุตสาหกรรม ที่อ่อนแอของสหรัฐฯ บ่งชี้ถึงสภาวะที่แย่ลงในเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในโลก
ความคิดเห็นที่ hawkish จากเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ จำนวนหนึ่งยังบั่นทอนความเชื่อมั่นต่อสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูง โดยขณะนี้ที่อัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ มีแนวโน้มว่าจะสูงขึ้นไปอีกนาน
หุ้นเอเชียเผชิญกับกระแสลมแรงอีกครั้งในปีนี้ โดยคาดว่าสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงจะถูกเทขายอย่างหนักท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจที่แย่ลงและนโยบายการเงินที่ตึงตัว การเติบโตที่ช้าลงในจีนยังทำให้ความเชื่อมั่นในภูมิภาคลดลงอย่างมาก
ตลาดหุ้นไทย SET ยังคงปรับตัวลงเป็นวันที่ 3 ย่อตัวลง -16.87 มาอยู่ที่ 1,522.97 หลังจากจบการเลือกตั้งในวันอาทิตย์ สภาวะทางการเมืองยังไม่แน่นอน และยังมีแรงกดดันจากพรรคก้าวไกลที่เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล มีหลายนโยบายที่เป็นปัจจัยกดดัน "กลุ่มทุน"