หุ้นเอเชียดิ่งลง ความกลัวต่อเฟดมีมากกว่าความหวังในการฟื้นตัวของจีน

โดย Ambar Warrick

Investing.com -- หุ้นเอเชียส่วนใหญ่ร่วงลงเมื่อวันอังคาร เนื่องจากความกลัวว่าอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ จะสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องยังคงส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นในภูมิภาค แม้ว่าตลาดจะรอดูข้อมูลในสัปดาห์นี้ที่อาจส่งสัญญาณการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีนก็ตาม

ดัชนี CSI 300 และ เซี่ยงไฮ้คอมโพสิต ของจีนลดลง 0.1% ก่อนรายงานตัวเลข ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อของจีนที่เป็นดัชนีผสม (PMI) ในวันพุธ คาดว่าข้อมูลจะแสดงการปรับปรุงในเดือนกุมภาพันธ์จากเดือนก่อนหน้า แต่ ภาคการผลิต ของประเทศซึ่งทำหน้าที่เป็นตัวขับเคลื่อนหลักสำหรับการเติบโตทางเศรษฐกิจ มีแนวโน้มที่จะยังอยู่ใกล้แดนหดตัว

การฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีนคาดว่าจะกระจายไปสู่ตลาดเอเชียในวงกว้าง แต่จากข้อมูลเศรษฐกิจก่อนหน้าจนถึงขณะนี้ได้ให้ภาพเศรษฐกิจจีนแบบผสมผสานอยู่ แม้ว่าจีนจะผ่อนคลายมาตรการต่อต้านโควิดเป็นส่วนใหญ่เมื่อต้นปีนี้แล้วก็ตาม

การใช้จ่ายส่วนบุคคลของจีนก็ลดลง 0.2% ในปี 2022 ข้อมูลแสดงให้เห็นวันนี้ เนื่องจากข้อจำกัดของโควิดทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจต้องหยุดชะงัก

ดัชนี {{179|ฮั่งเส็ง} ของฮ่องกงลดลง 0.4% หลังจากข้อมูลแสดงให้เห็นเมื่อวันจันทร์ว่า การส่งออก ของประเทศลดลงเกือบ 37% ในเดือนมกราคม ซึ่งเป็นการลดลงที่เลวร้ายที่สุดในรอบ 70 ปี ข้อมูลยังแสดงให้เห็นว่าเศรษฐกิจของประเทศและประเทศที่มุ่งเน้นการส่งออกอาจกำลังเผชิญกับการชะลอตัวของอุปสงค์ทั่วโลก

ดัชนี Taiwan Weighted ทรุดตัวลง 0.7% โดยได้รับการชี้นำจากข้อมูลการส่งออกที่อ่อนแอ

ตลาดหุ้นเอเชียในวงกว้างขาดทุนเพิ่มเติมในวันอังคาร เนื่องจากความกลัวที่มีต่อการขึ้นอัตราดอกเบี้ยจากเฟดที่พุ่งสูงขึ้นยังคงมีอยู่หลังจาก ข้อมูลอัตราเงินเฟ้อ แข็งแกร่งเกินคาดในสัปดาห์ที่แล้ว จุดเที่ต้องจับตาในสัปดาห์นี้อยู่ที่รายงานข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐฯ เพิ่มเติม โดยสัญญาณความยืดหยุ่นใด ๆ จะทำให้เฟดมีช่องว่างมากขึ้นในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

อัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นส่งจะผลลบต่อหุ้นเอเชีย เนื่องจากจะทำให้เงินทุนต่างชาติที่ไหลเข้ามาในภาคส่วนภูมิภาคลดน้อยลง

ดัชนี Nifty 50 และ BSE Sensex 30 ของอินเดียร่วงลง 0.1% โดยหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีขนาดใหญ่ยังคงอยู่ภายใต้แรงกดดันจากเฟด ตลาดกำลังรอ รายงาน GDPไตรมาสเดือนธันวาคมของอินเดียในท้ายวันนี้ โดยคาดว่าการเติบโตจะชะลอตัวลงอีกจากไตรมาสก่อนหน้า

หุ้นของบริษัทภายใต้ Adani Group ดีดกลับจากการขาดทุนอย่างหนักในช่วงก่อนหน้า โดย Adani Enterprises Ltd (NS:ADEL) เพิ่มขึ้นมากกว่า 8%

ดัชนี นิคเคอิ 225 ของญี่ปุ่นทรงตัวเนื่องจากข้อมูลแสดงให้เห็นว่า การผลิตภาคอุตสาหกรรม ในประเทศชะลอตัวลงอย่างมากในเดือนมกราคม ตลาดกำลังรอคำแนะนำเพิ่มเติมจากธนาคารกลางญี่ปุ่นเกี่ยวกับนโยบายการเงิน

ตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่มีความเสี่ยงสูงฟื้นตัวอย่างรวดเร็วจากการขาดทุนในช่วงก่อนหน้า แต่ยังคงอยู่ในกรอบการซื้อขายที่เห็นเมื่อต้นเดือนนี้