โดย Ambar Warrick
Investing.com – ตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่ร่วงลงในวันจันทร์เนื่องจากนักลงทุนหนีสินทรัพย์เสี่ยงก่อนการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ ในปลายสัปดาห์นี้ ในขณะที่วันหยุดในญี่ปุ่นทำให้ปริมาณการซื้อขายลดลง
ตลาดหุ้นหลักส่วนใหญ่ในเอเชียขาดทุนเพิ่มเติมจากสัปดาห์ที่แล้ว เนื่องจากการประชุมของเฟดทั้งสองวันจะเริ่มต้นในวันอังคารนี้ และคาดว่าจะส่งผลให้มีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 75 จุดพื้นฐาน
ความกังวลเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้เขย่าราคาหุ้นในตลาดหุ้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เนื่องจากการคาดการณ์สำหรับนโยบายการเงินที่เข้มงวดเป็นรูปเป็นร่างมากขึ้น หลังจากที่ได้รับแรงหนุนจากข้อมูลเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ที่ร้อนแรงเกินคาด
เทรดเดอร์ยังกำหนดราคาสำหรับความเป็นไปได้ที่เฟดจะปรับขึ้น 100 จุดพื้นฐานอย่างไม่คาดคิด เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ยังคงอยู่สูง โดยจุดที่น่าสนใจของรายงานที่จะออกมาคือการคาดการณ์เงินเฟ้อของเฟดครั้งถัดไป ซึ่งน่าจะเป็นแนวทางนโยบายการเงินในช่วงที่เหลือของปี
ดัชนี ฮั่งเส็ง ที่เป็นกลุ่มบริษัทเทคโนโลยีของฮ่องกงทำผลงานได้แย่ที่สุดในวันจันทร์ โดยร่วงลง 1.2% จากการขาดทุนของบริษัท Baidu (NASDAQ:BIDU) {0|Baidu}} ( HK:9888) อาลีบาบา (HK:9988) และ Tencent (HK:0700) KOSPI ของเกาหลีใต้ก็ลดลง 0.9% ด้วย
ดัชนี CSI 300 และ เซี่ยงไฮ้คอมโพสิต ของจีนร่วงลงน้อยกว่าคู่แข่งเล็กน้อยหลังจากเมืองเฉิงตูทางตอนใต้ของจีน ผ่อนคลายการล็อคดาวน์ส่วนใหญ่ในวันจันทร์ การเคลื่อนไหวครั้งนี้คาดว่าจะช่วยกระตุ้นการฟื้นตัวของกิจกรรมทางเศรษฐกิจของจีน
ธนาคารกลางจีนได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยซื้อคืนในวันจันทร์ และเพิ่มอัตราการอัดฉีดเงินสดเข้าสู่เศรษฐกิจ เพื่อช่วยฟื้นการเติบโตในประเทศ
ตลาดหุ้นจีนได้รับแรงหนุนค่อนข้างมากในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมาจากความคาดหวังว่าปักกิ่งจะยังคงเพิ่มการใช้จ่ายและผ่อนคลายนโยบายเพื่อฟื้นการเติบโตทางเศรษฐกิจ แต่เมื่อเร็ว ๆ นี้ พรรคคอมมิวนิสต์ได้ส่งสัญญาณว่าจะเพิ่มมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในไตรมาสต่อไป
การอ่านข้อมูลทางเศรษฐกิจจากประเทศจีนแสดงให้เห็นว่าประเทศกำลังดิ้นรนกับการเติบโตที่ชะลอตัวเนื่องจากนโยบายโควิดเป็นศูนย์
ตลาดเอเชียยังมุ่งความสนใจไปที่การประชุมของ ธนาคารกลางญี่ปุ่น ธนาคารกลางฟิลลิปปินส์ และ ธนาคารกลางอินโดนีเซีย ในสัปดาห์นี้เพื่อหาแนวทางเพิ่มเติมว่าธนาคารกลางต่าง ๆ มีแผนการจัดการกับเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นอย่างไร
แต่ในขณะที่ตลาดคาดว่าธนาคารกลางฟิลิปปินส์และธนาคารกลางอินโดนีเซียจะขึ้นอัตราดอกเบี้ย ธนาคารแห่งประเทศญี่ปุ่นยังไม่ได้ส่งสัญญาณถึงเจตนาดังกล่าว เนื่องจากเศรษฐกิจญี่ปุ่นยังคงสั่นคลอนจากการระบาดของโควิด19