InfoQuest - นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้ อยู่ที่ระดับ 35.80/81 บาท/ดอลลาร์ ทรงตัวจาก เปิดตลาดเมื่อเช้าที่ระดับ 35.81 บาท/ดอลลาร์ โดยระหว่างวันเงินบาทยังไม่มีปัจจัยใหม่ เคลื่อนไหวในกรอบ 35.75 - 35.85 บาท/ดอลลาร์ เช่นเดียวกับสกุลเงินใน ภูมิภาควันนี้ที่ยังนิ่งๆ และวิ่งในกรอบ นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทวันพรุ่งนี้ไว้ที่ 35.70 - 36.00 บาท/ดอลลาร์ สำหรับประเด็นที่ ต้องติดตามในวันพรุ่งนี้ คือ อัตราเงินเฟ้อทั่วไปเดือนก.พ. ของไทย
* ปัจจัยสำคัญ
- เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 150.20/22 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 150.18 เยน/ดอลลาร์ - เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.0850/0852 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.0840 ดอลลาร์/ยูโร - ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ 1,362.57 จุด ลดลง 4.83 จุด (-0.35%) มูลค่าซื้อขาย 40,361.88 ล้านบาท - สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 609.80 ล้านบาท - เลขาธิการสภาพัฒน์ กล่าวว่า ในไตรมาส 3/66 หนี้สินครัวเรือนมีมูลค่ารวม 16.2 ล้านล้านบาท ขยายตัว 3.3% ชะลอ ตัวลงจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนหน้า โดยมีสัดส่วนหนี้สินครัวเรือนต่อ GDP อยู่ที่ 90.9% ทรงตัวจากไตรมาส 2/66 โดยครัวเรือน ชะลอการก่อหนี้ในเกือบทุกประเภทสินเชื่อ ยกเว้นสินเชื่อส่วนบุคคล ในส่วนของการจ้างงานปรับตัวดีขึ้น โดยอัตราการว่างงานลดลงมาอยู่ ที่ 0.81% หรือมีผู้ว่างงาน 3.3 แสนคน โดยลดลงทั้งผู้ว่างงานที่เคยทำงานมาก่อน และไม่เคยทำงานมาก่อน - การประชุมสองสภาประจำปีของจีนเริ่มต้นขึ้นแล้วในวันนี้ โดยเจ้าหน้าที่รัฐบาลจีนกล่าวว่า เศรษฐกิจที่ชะลอตัวและการว่าง งานในกลุ่มคนวัยหนุ่มสาว นับเป็นประเด็นที่น่ากังวลเป็นอย่างยิ่ง ในขณะที่พวกเขาหารือเกี่ยวกับแผนการสำหรับปีนี้ - นายกรัฐมนตรีจีน จะเป็นนายกรัฐมนตรีของจีนคนแรกในรอบ 30 ปี ที่ไม่เข้าร่วมการแถลงข่าวในการประชุมประจำปีของ สภาประชาชนแห่งชาติจีน (NPC) ซึ่งเป็นความเคลื่อนไหวที่อาจสร้างความกังวลให้กับนักลงทุนเกี่ยวกับการตัดสินใจด้านนโยบายที่ไม่ชัดเจน - คณะกรรมการบริหารของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ระบุว่า กิจกรรมทางเศรษฐกิจของจีนดีดตัวขึ้นในปี 2566 หลังกลับมาเปิดประเทศในช่วงหลังการระบาดของโรคโควิด-19 และคาดว่าผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศที่แท้จริง (real GDP) จะ เติบโตตามเป้าหมายของภาครัฐที่ราว 5% - รัฐบาลญี่ปุ่น กำลังพิจารณาที่จะประกาศยุติภาวะเงินฝืด เนื่องจากราคาต่างๆ สูงขึ้นแล้ว โดยสำนักข่าวเกียวโด รายงานว่า การตัดสินใจดังกล่าวขึ้นอยู่กับผลลัพธ์ของการเจรจาเรื่องค่าจ้างระหว่างฝ่ายลูกจ้างกับนายจ้างวันที่ 13 มี.ค.