InfoQuest - ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์พลิกปรับตัวสู่แดนลบ หลังการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานที่แข็งแกร่ง ซึ่งจะเป็นปัจจัยหนุนให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ
ณ เวลา 20.12 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ลบ 15 จุด หรือ 0.04% สู่ระดับ 33,776 จุด
กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้น 2,000 ราย สู่ระดับ 204,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว แต่ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 214,000 ราย
ส่วนตัวเลขค่าเฉลี่ย 4 สัปดาห์ของจำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรก ซึ่งถือเป็นมาตรวัดตลาดแรงงานที่ดีกว่า เนื่องจากขจัดความผันผวนรายสัปดาห์ ลดลง 6,250 ราย สู่ระดับ 211,000 ราย
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งที่ 3 สำหรับผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 2/2566 ในวันนี้ โดยระบุว่า เศรษฐกิจสหรัฐขยายตัว 2.1% ในไตรมาสดังกล่าว สอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ และไม่เปลี่ยนแปลงจากตัวเลขประมาณการครั้งที่ 2 แต่ต่ำกว่าตัวเลขประมาณการครั้งที่ 1 ที่ระดับ 2.4%
นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์ได้ปรับเพิ่มตัวเลขการขยายตัวในไตรมาส 1 สู่ระดับ 2.2% จากเดิมรายงานที่ระดับ 2.0%
ส่วนธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาแอตแลนตา เปิดเผยว่า แบบจำลองคาดการณ์ GDPNow ล่าสุดแสดงให้เห็นว่า เศรษฐกิจสหรัฐขยายตัว 4.9% ในไตรมาส 3/2566
เว็บไซต์ของเฟดเปิดเผยว่า นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด จะเป็นประธานในการประชุมแบบ town hall ในวันนี้
การประชุมดังกล่าวจะจัดขึ้นที่กรุงวอชิงตัน ดีซี เวลา 16.00-17.00 น.ตามเวลาสหรัฐ หรือ 03.00-04.00 น.ของวันที่ 29 ก.ย.ตามเวลาไทย
ทั้งนี้ เฟดจะถ่ายทอดสดการประชุมดังกล่าวผ่านทางเว็บไซต์ federalreserve.gov รวมทั้งช่อง YouTube โดยนายพาวเวลจะตอบคำถามจากผู้ชมในห้องส่ง รวมทั้งคำถามที่ถูกส่งจากผู้ชมในระบบออนไลน์ทั่วประเทศ ซึ่งผู้สนใจสามารถร่วมแสดงความเห็นผ่านทาง hashtag: #TeacherTownHall
นักลงทุนทั่วโลกต่างจับตาถ้อยแถลงของนายพาวเวลในคืนนี้เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟด ท่ามกลางความกังวลที่ว่าเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยในระดับสูงเป็นเวลานานเพื่อสกัดเงินเฟ้อ
นอกจากนี้ นักลงทุนจับตาความคืบหน้าของสภาคองเกรสในการผ่านร่างงบประมาณชั่วคราว ซึ่งหากไม่สามารถบรรลุข้อตกลงภายในวันที่ 30 ก.ย. ก็จะทำให้มีการปิดหน่วยงานของรัฐบาลสหรัฐ หรือชัตดาวน์ในวันที่ 1 ต.ค.
ขณะเดียวกัน ตลาดจับตาดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ที่จะมีการเปิดเผยในวันพรุ่งนี้ โดยดัชนี PCE เป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่เฟดให้ความสำคัญ เนื่องจากสามารถตรวจจับการเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมของผู้บริโภค และครอบคลุมราคาสินค้าและบริการในวงกว้างมากกว่าดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI)
นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ดัชนี PCE ทั่วไป ซึ่งรวมหมวดอาหารและพลังงาน ปรับตัวขึ้น 3.5% ในเดือนส.ค. เมื่อเทียบรายปี จากระดับ 3.3% ในเดือนก.ค.
เมื่อเทียบรายเดือน คาดว่าดัชนี PCE ทั่วไป ปรับตัวขึ้น 0.5% ในเดือนส.ค. จากระดับ 0.2% ในเดือนก.ค.
ส่วนดัชนี PCE พื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน คาดว่าปรับตัวขึ้น 3.9% ในเดือนส.ค. เมื่อเทียบรายปี จากระดับ 4.2% ในเดือนก.ค.
เมื่อเทียบรายเดือน คาดว่าดัชนี PCE พื้นฐานปรับตัวขึ้น 0.2% จากระดับ 0.2% เช่นกันในเดือนก.ค.