Investing.com - ภาพรวมของสามประเด็นหลักที่น่าสนใจในวันนี้มีดังต่อไปนี้
1. ดัชนี CPI และรายงานการประชุมเฟดรอประกาศ
อัตราเงินเฟ้อภาคการค้าปลีกเป็นที่น่าจับตาในวันนี้
กรมแรงงานสหรัฐฯ จะรายงานดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ประจำเดือนมีนาคมในเวลา 8:30 น. ตามเวลามาตรฐานตะวันออก (12:30 GMT)
เหล่านักเศรษฐศาสตร์คาดว่า CPI ของเดือนที่แล้วเพิ่มขึ้น 0.3% ส่วนดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐานโดยไม่รวมราคาอาหารและพลังงานเพิ่มขึ้น 0.2%
ข้อมูลเหล่านั้นส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานรายปีอยู่ในกรอบเป้าหมายของเฟดที่ 2% ซึ่งในเดือนมีนาคมที่ผ่านมาอัตราเงินเฟ้อเพิ่มขึ้นเท่ากับ 2.1%
ในวันนี้ คณะกรรมการนโยบายการเงินของ
เฟดอ้างว่าการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกและอัตราเงินเฟ้อที่เปราะบาง เป็นเหตุผลที่ทำให้เฟดมีมุมมองที่อะลุ่มอล่วยมากขึ้น ทั้งนี้คาดว่ารายงานการประชุมจะออกมาเพื่อยืนยันว่าสมาชิกเฟดมีมติเอกฉันท์ที่จะดำรงวิธีอดทนรอสังเกตการณ์ต่อไป
2. ราคาน้ำมันดิบจะลดลงอีกหรือไม่
รายงานจาก สำนักงานสารสนเทศพลังงาน (EIA) สหรัฐฯ มีกำหนดการประกาศในวันนี้ โดยก่อนหน้านี้ผู้ลงทุนได้ทราบข้อมูลเกี่ยวกับปริมาณสินค้าคงคลังสหรัฐฯ รายสัปดาห์ไปแล้ว และข้อมูลได้เผยว่าปริมาณน้ำมันคงคลังเพิ่มมากขึ้น
เมื่อวานนี้มีการประกาศ ข้อมูลจากสถาบันปิโตรเลียมแห่งอเมริกา แม้ว่ารายงานนี้จะไม่เกี่ยวข้องกับรายงานของ EIA เสียทีเดียว แต่ก็สามารถเป็นปัจจัยที่ใช้บ่งชี้ระดับน้ำมันปิโตรเลียมรายสัปดาห์ได้ล่วงหน้า ตัวเลขปริมาณสินค้าคงคลังน้ำมันดิบของสัปดาห์ที่แล้วออกมาเพิ่มขึ้น 4.1 ล้านบาร์เรล ซึ่งเป็นสัปดาห์ที่สามติดต่อกันแล้วที่น้ำมันดิบคงคลังเพิ่มขึ้น
คาดว่าข้อมูลจาก EIA จะเผยปริมาณสินค้าคงคลังที่เพิ่มขึ้น 2.294 ล้านบาร์เรล สำหรับสัปดาห์ที่สิ้นสุดก่อนวันที่ 5 เมษายน
นอกจากนี้ข้อมูลกำลังการผลิตน้ำมันดิบสหรัฐฯ ก็จะได้รับความสนใจเช่นกัน โดย EIA ได้ปรับผลคาดการณ์กำลังการผลิตน้ำมันดิบสหรัฐฯ สำหรับปี 2019 และ 2020 โดยเฉลี่ยอยู่ที่ 12.4 ล้านบาร์เรลต่อวันและ 13.1 ล้านบาร์เรลต่อวันตามลำดับ จากเดิมที่คาดการณ์ไว้เดือนที่แล้ว 12.3 ล้านบาร์เรลต่อวันและ 13 ล้านบาร์เรลต่อวัน
3. Delta รายงานผลประกอบการ
Delta Air Lines (NYSE:DAL) จะรายงานผลประกอบการก่อนเวลาเปิดตลาดในวันนี้
บรรดานักวิเคราะห์ที่ Investing.com รวบรวมผลสำรวจมา คาดว่าบริษัทสายการบินยักษ์ใหญ่จะรายงานผลประกอบการสำหรับไตรมาสแรกด้วย ผลกำไร ที่ 89 เซนต์ต่อหุ้น และคาดว่าจะมีรายได้1.04 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นมาจากกำไรเดิม 74 เซนต์ต่อหุ้นและรายได้ 9.97 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ เมื่อปีที่แล้ว
คำถามสำคัญที่นักวิเคราะห์ควรให้คำตอบได้คือ ราคาน้ำมันที่สูงขึ้นจะส่งผลอย่างไรต่อผลประกอบการบ้าง เพราะค่าใช้จ่ายด้านเชื้อเพลงมีสัดส่วนคิดเป็น 25% ของรายจ่ายทั้งหมด และปีนี้ราคาน้ำมันดิบก็พุ่งขึ้นไปถึง 41%
Delta ไม่ได้รับผลกระทบจากปัญหาล่าสุดของ Boeing (NYSE:BA) แต่อย่างใด เนื่องจากบริษัทไม่มีเครื่องบินรุ่น 737 MAX
ในปีนี้หุ้นของบริษัททะยานขึ้นมาแล้วกว่า 15%