แฮกเกอร์จากเกาหลีเหนือได้ใช้ “เครื่องมือชุดใหม่” ที่พยายามขโมยเงินจากบริษัทคริปโตของอิสราเอล โดยสันนิษฐานว่าเงินที่ขโขยนั้นจะถูกนำไปใช้สนับสนุนโครงการนิวเคลียร์ลับของประเทศตามรายงานในอิสราเอล ทั้งนี้มีแหล่งข่าวเพิ่มเติมว่าการโจมตีของแฮกเกอร์ชาวเกาหลีเหนือได้เข้าโจมตีบริษัทซัพพลายเออร์ชาวญี่ปุ่นซึ่งใช้วิธีแปลกใหม่ที่หลายคนคาดว่าเป็นกลยุทธ์ “มืออาชีพและซับซ้อน” เพื่อพยายามเข้าถึงเงินทุนในบริษัทคริปโต จากกรณีดังกล่าวได้ส่งสัญญาณเตือนภัยไปยังอิสราเอลก่อนที่จะถูกตรวจพบโดยบริษัทรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ในเวลาต่อมาเพียงไม่นาน บริษัทรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์กล่าวว่าหากการโจมตีสำเร็จเงินทุนอาจถูกนำไปใช้สำหรับพัฒนาโครงการนิวเคลียร์ของเปียงยางต่อไปแม้ว่าจะยังพิสูจน์ความชัดเจนเหล่านี้ไม่ได้เนื่องจากเป็นการคาดเดาตามการศึกษาตามรูปแบบที่ผ่านมาแต่ก็สามารถตอบได้ว่าตอนนี้อิสราเอลกำลังจะกลายเป็นเหยื่อรายถัดไป แฮ็กเกอร์ชาวเกาหลีเหนือมาอีกแล้ว รายงานของสหประชาชาติเมื่อปีที่แล้วกล่าวว่าเกาหลีเหนือได้ขโมยเงินดิจิตอลมากกว่า 300 ล้านดอลลาร์เพื่อสนับสนุนโครงการอาวุธของตน ตามรายงานพบการโจมตีสองครั้งในปี 2020 โดยมีการโจมตีธนาคารกลางบังคลาเทศมูลค่า 81 ล้านดอลลาร์และการปล้น 60 ล้านดอลลาร์จากธนาคาร Far Eastern International Bank ของไต้หวัน อีกทั้งแฮ็กเกอร์ชาวเกาหลีก็อยู่ในกรอบของการโจมตีแรนซัมแวร์ WannaCry ในปี 2017 ซึ่งกำหนดเป้าหมายคอมพิวเตอร์ 300,000 เครื่องใน 150 ประเทศ รวมถึงอาชญากรไซเบอร์ของเปียงยางยังตั้งเป้าไปที่ฮอลลีวูดซึ่งถูกกล่าวหาว่าแฮ็ก Sony Pictures ในปี 2014 เพื่อล้างแค้นให้กับภาพยนตร์เรื่อง The Interview ของบริษัทซึ่งล้อเลียนผู้นำประเทศ Kim Jong Un ของพวกเขา อย่างไรก็ตามแม้ว่าจะมีการคว่ำบาตรอย่างหนักต่อเกาหลีเหนือและโครงการอาวุธต่าง ๆ ก็ตาม แต่ก็ยังคงพบเห็นการยิงจรวดอย่างต่อเนื่องซึ่งแสดงให้เห็นว่าประเทศนี้ไม่ได้เดือนร้อนเรื่องเงินทุนหรือวัสดุใด ๆ
กดอ่านข่าว รายงานเผยแฮกเกอร์ชาวเกาหลีเหนือกำลังเล็งเป้าหมายไปที่บริษัท crypto ในอิสราเอล ต่อที่ Siam Blockchain