เมื่อวันเสาร์ที่ 4 ธันวาคมที่ผ่านมาสื่อมวลชนท้องถิ่นในประเทศบราซิลได้ออกมาเผยว่าร่างกฎหมายฉบับใหม่จากฝ่ายนิติบัญญัติของประเทศอาจช่วยลดคำวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับคริปโตในประเทศลงได้ โดยล่าสุดวุฒิสมาชิก Irajá Silvestre Filho ได้ยื่นข้อเสนอให้กับสภาคองเกรสในการอนุมัติให้สกุลเงินดิจิทัลกลายเป็นสกุลเงินที่ใช้ชำระหนี้ได้ตามกฎหมายท่ามกลางการสนับสนุนจากประชาชนในประเทศอย่างล้นหลาม ซึ่งหากรัฐบาลเห็นชอบอนุมัติข้อเสนอข้างต้นแล้ว จะส่งผลให้แพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนคริปโตสามารถดำเนินการให้บริการทางการเงิน และ ให้บริการกู้เงินดิจิทัลแก่ชาวบราซิลได้อย่างถูกกฎหมาย แต่ทว่าปัจจุบันก็ยังไม่ได้เป็นที่ชัดเจนนักว่าสภานิติบัญญัติของประเทศจะสนับสนุนประเด็นดังกล่าวมากน้อยเพียงใด
คริปโตควรถูกกฎหมายเพื่อให้บราซิลกลายเป็น “กรุงเมกกะของเหมืองคริปโต”
Taynaah Reis ซีอีโอแห่ง Moeda บริษัทด้านการเงินที่ใช้เทคโนโลยี Blockchain ในประเทศบราซิลเผยกับสำนักข่าวต่างประเทศรายหนึ่งระบุว่า
“คริปโตกำลังได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในบราซิล บริษัทต่าง ๆ ได้เริ่มออกมาประกาศแผนการทำธุรกิจเกี่ยวกับคริปโตมากขึ้นไปทุกที ส่งผลให้หน่วยงานกำกับดูแลจึงต้องออกมาดำเนินการในเชิงรุก และ เฝ้าระวังกระแสการขุดเหรียญดิจิทัล ด้วยการร่างนโยบายควบคุมแนวทางดังกล่าวให้ครอบคลุมมากที่สุด”
Reis ยังได้กล่าวเสริมว่าเหล่านักขุดคริปโตจะต้องดำเนินการลงทะเบียนอุปกรณ์ของพวกเขากับทางรัฐบาลประเทศบราซิล เพื่อให้หน่วยงานได้ดำเนินการตรวจสอบระบบนิเวศที่ใช้ในการประกอบกิจการเหล่านั้นด้วยเช่นเดียวกัน
นอกจากนี้ Ray Nasser ซีอีโอแห่ง Arthur Mining ระบุว่า
“หากรัฐบาลบราซิลอนุมัติให้มีการยกเว้นภาษีกับบรรดานักขุดคริปโต จะยิ่งช่วยส่งเสริมให้ประเทศกลายเป็น “กรุงเมกกะ” ที่รวมเหล่านักขุดคริปโตจากทั่วโลกมาไว้ที่นี่ได้”
แต่ทว่าภายใต้เงื่อนไขทางด้านกฎหมายในการจะเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัลให้กลายเป็นสินทรัพย์ที่ถูกกฎหมายนั้น ทางธนาคารกลางแห่งประเทศบราซิลจะต้องได้รับอนุญาตให้ดำเนินการออก CBDC ให้ได้เสียก่อน เพื่อทำให้บราซิลกลายเป็นหนึ่งใน 9 ประเทศในแถบแคริบเบียนตะวันออกที่เปิดตัว CBDC ให้กับประชาชนในประเทศได้ใช้
รัฐบาลไม่ควรมองว่าการขุด Bitcoin เป็นภัยคุกคามต่อการจ่ายพลังงาน
ไม่ใช่แค่เพียงการทำคริปโตให้ถูกกฎหมายเท่านั้น ล่าสุดบราซิลกำลังเผชิญกับประเด็นที่เป็นที่ถกเถียงกันอย่างมากในประเทศอย่าง Power Rationing หรือ รูปแบบการแบ่งสัดส่วนกำลังไฟฟ้าส่วนเล็ก ๆ ของประเทศเก็บไว้เพื่อป้องกันโครงข่ายไฟฟ้าโดยรวม
ปัจจุบันบราซิลสามารถผลิตพลังงานไฟฟ้าได้เพียงแค่ครึ่งเดียวจากแหล่งพลังงานหมุนเวียนทั้งหมดในประเทศ โดยทางหน่วยงาน International Trade Administration ได้ออกมารายงานว่า ค่าไฟฟ้าในหน่วย 1 กิโลวัตต์ต่อชั่วโมงจะคิดเป็นเงินทั้งหมด 0.12 ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งถือว่ายังคงอยู่ในระดับปกติ
Rudá Pellini ผู้บริหารแห่ง Arthur Mining กล่าวว่าการขุด Bitcoin (BTC) ไม่ได้เป็นภัยคุกคามต่อแหล่งจ่ายพลังงานแต่อย่างใด
“ปัญหาหลักด้านพลังงานประการหนึ่งของประเทศบราซิลก็คือการแจกจ่ายพลังงาน ซึ่งอันที่จริงแล้วประเทศของเราผลิตพลังงานไฟฟ้าได้ในปริมาณมากเกินควรด้วยซ้ำ และ มันเป็นไปได้ที่รัฐบาลจะส่งเสริมให้ผู้ประกอบการหลายแห่งหันมาผลิตพลังงานสะอาดให้กับประเทศเพิ่มมากขึ้น”