InfoQuest - ราคาทองฟิวเจอร์ปรับตัวขึ้นเหนือระดับ 2,040 ดอลลาร์ ขณะที่นักลงทุนจับตารายงานการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) ประจำวันที่ 30-31 ม.ค. รวมทั้งถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยสหรัฐ
ณ เวลา 20.27 น.ตามเวลาไทย สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย. บวก 1.80 ดอลลาร์ หรือ 0.09% สู่ระดับ 2,041.60 ดอลลาร์/ออนซ์
ราคาทองยังได้ปัจจัยบวกจากการอ่อนค่าของดอลลาร์ และการร่วงลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ
ทั้งนี้ ดอลลาร์ที่อ่อนค่าจะเพิ่มความน่าดึงดูดของทอง ทำให้สัญญาทองมีราคาถูกลงสำหรับผู้ถือครองเงินสกุลอื่น ส่วนการร่วงลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ จะช่วยลดต้นทุนค่าเสียโอกาสในการถือครองทองคำ เนื่องจากทองคำเป็นสินทรัพย์ที่ไม่มีผลตอบแทนในรูปดอกเบี้ย
นักลงทุนจับตารายงานการประชุม FOMC ประจำวันที่ 30-31 ม.ค. ซึ่งจะมีการเปิดเผยในคืนนี้
ทั้งนี้ FOMC มีมติเอกฉันท์ในการคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับ 5.25-5.50% ในการประชุมดังกล่าว ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบกว่า 22 ปี
การประกาศคงอัตราดอกเบี้ยในครั้งนี้ เป็นไปตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้ และเป็นการตรึงอัตราดอกเบี้ยติดต่อกันเป็นครั้งที่ 4 หลังจากที่เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 11 ครั้งนับตั้งแต่ที่เริ่มวัฏจักรปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมี.ค.2565 ส่งผลให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยรวม 5.25% อย่างไรก็ดี เฟดส่งสัญญาณว่ายังไม่มีแผนที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย เนื่องจากเงินเฟ้อยังคงอยู่สูงกว่าเป้าหมายของเฟด
ขณะเดียวกัน ตลาดจับตานายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด ซึ่งมีกำหนดกล่าวแถลงการณ์รอบครึ่งปีว่าด้วยนโยบายการเงินและภาวะเศรษฐกิจสหรัฐต่อสภาคองเกรสในเดือนมี.ค.
ทั้งนี้ นายพาวเวลมีกำหนดกล่าวถ้อยแถลงต่อคณะกรรมาธิการบริการการเงินประจำสภาผู้แทนราษฎรในวันที่ 6 มี.ค. ก่อนที่จะกล่าวต่อคณะกรรมาธิการการธนาคารประจำวุฒิสภาในวันที่ 7 มี.ค.
นักลงทุนจับตาถ้อยแถลงของนายพาวเวล ซึ่งจะมีขึ้นก่อนการประชุมนโยบายการเงินของเฟดในวันที่ 19-20 มี.ค. เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟด หลังสหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) และดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ที่สูงกว่าคาดในสัปดาห์ที่แล้ว
การเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้นเกินคาดได้ทำให้นักลงทุนเลื่อนคาดการณ์การปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกของเฟดในปีนี้เป็นเดือนมิ.ย. จากเดิมที่เคยคาดว่าจะเกิดขึ้นอย่างเร็วที่สุดในเดือนมี.ค. แต่ก็เลื่อนมาเป็นเดือนพ.ค. ก่อนที่ล่าสุดคาดว่าการปรับลดอัตราดอกเบี้ยจะเกิดขึ้นในเดือนมิ.ย.
นอกจากนี้ ตัวเลขเงินเฟ้อที่สูงกว่าคาดดังกล่าวทำให้นักลงทุนคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% เพียง 3 ครั้งในปีนี้ จากเดิมที่คาดว่าเฟดจะปรับลดดอกเบี้ยจำนวนมากกว่า 4 ครั้ง