สิ่งที่ได้จากงาน Opportunity Day
1.คาดว่ากำลังซื้อภายในประเทศปีนี้จะลดลง และมอง GDP ไทย อาจติดลบถึง 6% ส่งผลให้รายได้ของบริษัทในปีนี้ลดลงแต่ไม่น่าเกิน 5-6% YoY ผลจากการ ปิดช่องทางการขาย Offline เป็นเวลา 2 เดือน จากแพร่ระบาดของโควิด-19
2.มีกลยุทธ์ในการเพิ่มการจำหน่ายผ่านช่องทางออนไลน์ โดย ณ FY3Q20 (ปิด มี.ค.) ช่องทางการขายสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์เติบโต 76%YoY คิดเป็น สัดส่วนรายได้ 10% ของช่องทางการขายทั้งหมด กอปกับมาตรการควบคุม ค่าใช้จ่าย ทั้งค่าเช่า บุคลากร และ สิ่งที่ไม่จำเป็น ส่งผลให้ค่าใช้จ่ายในการ ขายและบริหารช่วง FY3Q203Q20 ลดลง 10%YoY
3.มีแผนการเติบโตใน 3 ปีข้างหน้าจาก (1) ปี20 เน้นการขายสินค้าออนไลน์, ลดค่าใช้จ่าย, ปรับปริมาณสต็อกสินค้าให้เหมาะสม, หาสินค้าใหม่ๆให้ สอดคล้องต่อความต้องการลูกค้า, และบริหารจัดการ Supply Chain (2) ปี21 ขยายฐานลูกค้า, ทำให้สินค้าเป็นที่รับรู้ของผู้บริโภค,พัฒนา ผลิตภัณฑ์ และรวมตลาดออฟไลน์และออนไลน์ไปด้วยกัน (3) ปี 22 เตรียม ความพร้อมในการขยายตลาดไปยังต่างประเทศ
ผลประกอบการ FY3Q20
รายงานกำไรสุทธิ FY3Q20 ที่ 77 ล้านบาท (-44%YoY, -66%QoQ) การลดลง ทั้ง YoY และ QoQ เป็นผลจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่งผลให้มีการปิด ช่องทางขาย Offline (ร้านค้าปลีก, ห้างสรรพสินค้า และซูเปอร์สโตร์) ลงชั่วคราวตั้งแต่กลางเดือนมี.ค.ถึงกลางพ.ค. ส่งผลให้รายได้รวมลดลงมาที่ 744 ล้านบาท (-14%YoY และ -34%QoQ)
(BK: กดดูกราฟราคาหุ้นแม็คกรุ๊ป )
ความเห็นนักวิเคราะห์
ผลประกอบการ FY9M20 มีกำไรสุทธิ 369 ล้านบาท (-13%YoY) จากยอดขาย ทรงตัวที่ 2.6 พันล้านบาท แม้ได้รับผลกระทบจากการปิดช่องทาง Offline บ่งบอกถึงโอกาสฟื้นตัวในช่วงที่เหลือของปี ขณะที่ราคาหุ้นปรับขึ้น 20% หลังการประกาศงบช่วงกลางพ.ค.ที่ผ่านมา ปัจจุบันซื้อขายที่ระดับ 29.5x Trailing PE ซึ่งอยู่ในระดับ +1SD จากค่าเฉลี่ย 1 ปีที่ 22 เท่า ถือว่าราคาหุ้นได้สะท้อนความคาดหวังเชิงบวกต่อการฟื้นตัวของผลประกอบการรายไตรมาสหลังการ คลายล็อคดาวน์ไปแล้ว พิจารณาจาก Bloomberg มีนักวิเคราะห์ 4 ท่าน จาก 7 ท่าน ที่ให้คำแนะนำ “ซื้อ”ด้วยราคาเป้าหมายเฉลี่ยที่ 9.59 บาท
บทความนี้เผยแพร่ครั้งแรกที่ cgsec.co.th
บทความห้ามพลาด
หุ้นสหรัฐดีด 3 วันติดต่อกัน!หลังทรัมป์เตรียมทุ่ม 1 ล้านล้านเหรียญกระตุ้นเศรษฐกิจ