SET: คาดการณ์ SET Index - กดดูความเคลื่อนไหวล่าสุด แกว่งตัวไร้ทิศทางในวันนี้ หลังตลาดยังขาดปัจจัยกำหนดทิศทางใหม่ โดยในสภาวะที่ปัจจัยภายนอกยังคงมีความไม่แน่นอนจากการระบาดของ COVID-19 รอบสอง รวมถึงการมีส่วนร่วมของนักลงทุน Retail ยังคงอยู่ในระดับสูง จึงยังทำให้หุ้นขนาดกลาง-เล็กยังคงปรับตัว Outperform หุ้นขนาดใหญ่ต่อไป โดยล่าสุดดัชนี sSET ปรับตัว Outperform ดัชนี SET50 สู่ระดับสูงสุดของปีอย่างต่อเนื่อง
ในเชิงกลยุทธ์: ยังคงแนะนำ Wait & See และถือครองหุ้นในส่วนที่เหลือ หลังดัชนียังคงแกว่งตัวอยู่ในกรอบแนวต้าน-แนวรับที่เราให้ไว้ โดยหากดัชนีปรับขึ้นไปบริเวณกรอบแนวต้านที่ 1400-1420 จุด มองเป็นโอกาสในการลดพอร์ตการลงทุนอีกครั้ง และหากดัชนีปรับลงมาบริเวณกรอบแนวรับที่ 1300-1330 จุด มองเป็นโอกาสในการเพิ่มพอร์ตการลงทุนเช่นกัน
Factor: สำหรับปัจจัยวันนี้ แนะนำติดตามการประชุม EU summit ซึ่งจะมีการพูดคุยกันในส่วนของแผนงบประมาณของกลุ่มประเทศยูโรโซน และอาจมีการหารือเกี่ยวกับแพคเกจกระตุ้นเศรษฐกิจชั่วคราวมูลค่า 7.5 แสนล้านยูโร ที่ได้รับความเห็นชอบจาก 2 ประเทศยักษ์ใหญ่อย่างเยอรมนีและฝรั่งเศสมาก่อนหน้านี้
ดูกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่จะเกิดขึ้นเร็วๆนี้
https://th.investing.com/economic-calendar/
Fed balance sheet: มีสิ่งที่น่าตกใจเล็กน้อยเกิดขึ้นหลังจากการตรวจสอบของเราไปยังตัวเลขงบดุลของ Fed ประจำสัปดาห์ล่าสุด พบว่ามีการปรับตัวลดลงที่ระดับ 7.4 หมื่นล้านเหรียญฯ ถือเป็นการหดตัวครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนก.พ.ที่ผ่านมาและเป็นการหดตัวมากสุดตั้งแต่ปี 2009 รวมทั้งเป็นการ Offset การขยายตัวที่เกิดขึ้นตั้งแต่ต้นเดือนมิ.ย.ไปจนหมดสิ้น อย่างไรก็ดี พอเข้าไปตรวจสอบใส้ใน จะพบว่าการหดตัวโดยหลักนั้นเกิดจากการลดลงของ Foreign exchange swaps ที่ทำกับธนาคารกลางอื่นๆ เนื่องจากความต้องการเงิน USD ได้ปรับลดลงอย่างมากในช่วงหลัง จาก Liquidity มีความตึงตัวน้อยลง ในขณะที่การเข้าซื้อ U.S. Treasuries และ MBS ยังคงมีเพิ่มขึ้น
โดย Treasuries ปรับขึ้น 1.9 หมื่นล้านเหรียญฯ ขณะที่ MBS ปรับขึ้นถึง 8.3 หมื่นล้านเหรียญฯ มากสุดในรอบ 5 สัปดาห์ ถือเป็นสัญญาณที่ดี ในส่วนของโครงการ Secondary Market Corporate Credit Facility (SMCCF) ที่ Fed เพิ่งจะขยายขอบเขตการเข้าซื้อไปยังตราสารหนี้เอกชนในช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมานั้น พบว่ายังไม่มีนัยสำคัญเท่าไหร่ โดยมีการปรับเพิ่มขึ้นในสัปดาห์ที่ผ่านมาเพียง 1.5 พันล้านเหรียญฯเท่านั้น
USD: กล่าวโดยสรุป ขนาดงบดุลของ Fed ที่ลดลงในสัปดาห์ที่ผ่านมานั้น ยังไม่เป็นสัญญาณที่กังวลใจมากนัก เนื่องจาก Fed ยังคงมีการเข้าซื้อ Treasuries และ MBS อยู่ และเป็นระดับที่เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อน เพียงแต่ว่ายอดรวมของงบดุลที่มีขนาลดลงนั้น จะทำให้เงิน USD เริ่มมีทิศทางแกว่งตัวแข็งค่าขึ้นในระยะสั้น จนส่งผลกระทบต่อกระแส Fund flow ในตลาดเกิดใหม่ได้
บทวิเคราะห์นี้จัดทำขึ้นและเผยแพร่โดยทีมนักวิเคราะห์ของ Trinity Securities
บทความห้ามพลาด
คาดการณ์ทิศทางแบงก์ชาติอังกฤษ นักลงทุนเริ่มหลีกเลี่ยงความเสี่ยง
ตลาดหุ้นไทยยังมีโอกาสผันผวนต่อ จากความเสี่ยงการระบาดของ COVID-19 ในต่างประเทศ
การซื้อหุ้นกู้บริษัทเอกชนของเฟดไม่ได้แก้ปัญหาโควิด-19 รอบที่ 2