ภาพรวมการลงทุนวันนี้ – ตลาดหุ้นไทยยังมีโอกาสผันผวนต่อ จากความเสี่ยงต่อการระบาดของ COVID-19 ในต่างประเทศ ตลาดหุ้นไทย เราเริ่มเห็นการขายของนักลงทุนต่างชาติที่เพิ่มขึ้น สะท้อน Foreign Fund Inflow ที่เริ่มชะลอตัว และค่าเงินบาทเริ่มกลับมามีทิศทางอ่อนค่าในช่วง 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา รวมทั้งมาตรการของธนาคารแห่งประเทศ ในการช่วยเหลือลูกค้า (บัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคล) กดดันภาพรวมการลงทุนกลุ่มธนาคาร ทั้ง Bank และ Non-Bank
กลยุทธ์การลงทุนในช่วงที่ตลาดมีความผันผวนสูง เรายังคงเลือกลงทุนในหุ้นที่มีลักษณะเป็น Defensive Stock ใน Theme Investment DCA และ SSFx ของเรา และหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัวอย่าง BTS BEM และ CPALL (BK:CPALL)
ราคาน้ำมันดิบกลับมาฟื้นตัว เรามองเป็นเพียงระยะสั้น – ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่มตอบรับเชิงบวกต่อรายงานของ IEA ที่มีการปรับคาดการณ์ความต้องการใช้น้ำมันดิบในปี 2563 เพิ่มขึ้นเป็น 91.7 ล้านบาร์เรลต่อวัน รวมทั้งอุปทานน้ำมันดิบในเดือน พ.ค. ที่ลดลง 12 ล้านบาร์เรลต่อวัน ตามมติการปรับลดกำลังผลิตของกลุ่ม OPEC+
อย่างไรก็ตามความไม่แน่นอนของสถานการณ์ COVID-19 ยังคงกดดันการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ รวมทั้งความต้องการใช้น้ำมัน ขณะที่ราคาหุ้นในกลุ่มพลังงานและปิโตรเคมี ปรับเพิ่มจนเต็มมูลค่า และเกินราคาเป้าหมายที่เราประเมินไว้ อย่างไรก็ตามการฟื้นตัวของราคาน้ำมันในระยะสั้น ทำให้เราเลือกลงทุนในลักษณะการเก็งกำไรระยะสั้น เฉพาะหุ้นที่ยังมี Upside อย่าง BCP SPRC และ PTTGC
สถานการณ์ COVID-19 เริ่มกลับมากระทบการค้าระหว่างประเทศ – ล่าสุดจีนระงับการนำเข้าเนื้อหมูจากบริษัท Toennies Group (บริษัทชั้นนำในอุตสาหกรรมเนื้อของเยอรมนี) หลังพบคนงานในบริษัทติดเชื้อ COVID-19 มากถึง 657 คน โดยที่ผ่านมาตลาดเริ่มกลับมาให้น้ำหนักความเสี่ยงต่อการกลับมาแพร่ระบาดของ COVID-19 ในจีน
ขณะที่สถานการณ์ในสหรัฐฯ ยังคงมีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่ม โดยเฉพาะรัฐแคลิฟอร์เนียและเท็กซัส ซึ่งเป็นสองรัฐที่มีประชากรมากที่สุดในสหรัฐฯ หลังผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ รวมทั้งจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ในกรุงปักกิ่งของจีนที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้ภาครัฐฯ มีมาตรการควบคุมการเดินทางอีกครั้ง อย่างไรก็ตามรายงานของ WHO ล่าสุดยังเชื่อว่าวัคซีนรักษา COVID-19 ราว 200 ล้านโดส จะสามารถผลิตออกมาในช่วงปลายปี 2563
สถิติสำคัญด้านเศรษฐกิจของสหรัฐฯ - Conference Board เปิดเผยดัชนีชี้นำเศรษฐกิจ (LEI) เพิ่มขึ้น 2.8% มาอยู่ที่ 99.8 ในเดือน พ.ค. หลังปรับลดลง 7.5% และ 6.1% ในเดือน มี.ค. และ เม.ย. ตามลำดับ ซึ่งเป็นการลดลงมากสุดในรอบ 60 ปีที่มีการรายงานตัวเลขดังกล่าว นอกจากนี้ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) สาขาฟิลาเดลเฟีย เปิดเผยดัชนีภาวะธุรกิจในภูมิภาค Mid-Atlantic เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 27.5 จุด ในเดือน มิ.ย. จาก -43.1 ในเดือน พ.ค. (เดือน เม.ย. อยู่ที่ -56.6) จากผลกระทบจากการแพร่ระบาดของ COVID-19
-
มุมมองทางเทคนิค – เราคาดว่า SET Index วันนี้จะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 1,362 – 1,388 จุด (มีแนวรับอยู่ที่ 1,370 1,362 และ 1,351 จุด และมีแนวต้านอยู่ที่ 1,380 1,388 และ 1,400 จุด) หุ้นแนะนำทางเทคนิควันนี้ได้แก่ BCP SGP GFPT PTTGC และ SPRC
บทวิเคราะห์นี้จัดทำขึ้นและเผยแพร่โดยทีมนักวิเคราะห์ของ Asia Wealth Securities
บทความห้ามพลาด
คาด SET INDEX อ่อนตัวลงกรอบ 1360 - 1370 ขาดปัจจัยบวกแต่ข่าวลบกลับเริ่มทยอยเกิดขึ้น
'สิ่งมหัศจรรย์ทั้ง7'ของเศรษฐกิจถดถอยในสหรัฐ และตลาดการเงินปี 2020
กลับไปล็อคดาวน์อีกรอบหรือไม่ ดาวโจนส ก็จะไปต่ออยู่ดี