รับส่วนลด 40%
ใหม่! 💥 รับ ProPicks เพื่อดูกลยุทธ์ที่ให้ผลตอบแทน ชนะดัชนี S&P 500 มากกว่า 1,183% รับส่วนลด 40%

กลับไปล็อคดาวน์อีกรอบหรือไม่ Dow Jones ก็จะไปต่ออยู่ดี

เผยแพร่ 17/06/2563 13:43
อัพเดท 09/07/2566 17:32

เราเพิ่งได้เห็นอภินิหารจากเฟดอีกครั้งเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา หลังจากที่มีการประกาศว่า จะเริ่มเข้าซื้อตราสารหนี้ภาคเอกชนเป็นรายตัว จากเดิมที่ซื้อผ่านกองทุน ETF โดยจะซื้อด้วยวงเงิน $750 billion เงื่อนไขคือ หุ้นกู้ตัวนั้นๆ จะต้องมี Rating BBB- ก่อนวันที่ 22 มี.ค. ที่เฟดประกาศโครงการ secondary market corporate credit facility

ผลของการประกาศครั้งนี้ หยุดแรงขายของนักลงทุนได้ทุกสินทรัพย์ ทั้งตราสารทุน ทั้งตราสารหนี้ และ แม้แต่ทองก็ยังเด้งขึ้นมาด้วย

ในฝั่งของตราสารหนี้นั้นได้ประโยชน์ตรงๆ จากการที่ Credit Spread กลับมาแคบอีกครั้ง เพราะนักลงทุนมั่นใจขึ้นมาทันทีว่า ตราสารหนี้ที่ตัวเองถือนั้น ยังไงก็ไม่ Default เพราะมีรัฐบาลอุ้ม แรงซื้อก็เลยกลับเข้ามา

ซึ่งความตั้งใจของเฟด ก็คือ พยายามจะเข้าควบคุมส่วนต่างผลตอบแทนระหว่างหุ้นกู้เอกชน กับ ผลตอบแทนของพันธบัตรสหรัฐฯ เพราะหากมันถ่างออกมากจนเกินไป ต้นทุนการกู้ยืมของบริษัทเอกชนที่สูงขึ้น จะหมายถึงความเสี่ยงที่จะผิดนัดชำระหนี้ตามมา

*ในมุมมองส่วนตัวของผม นี่คือท่าแรกก่อนที่จะไปใช้ท่าไม้ตาย Yield Curve Control ภายในครึ่งปีหลัง เราเรียกท่านี้ไปพลางๆก่อนว่า "Spread Control"

กระบวนท่าของเฟดรอบนี้ ตลาดหุ้นได้อานิสงส์ เพราะ เหล่าหุ้นบริษัทจดทะเบียนที่ Sensitive กับการ Lockdown อย่าง Energy , Airlines, Retailers เหล่านี้ เท่ากับกำลังจะมีกรรมการมาช่วยอุ้มให้อีกรอบ ไม่ว่าจะเกิดการระบาดระลอก 2 จนต้องปิดเมืองอีกครั้งหรือไม่

ภาพที่เห็นก็เลยกลายเป็นหุ้นเหล่านี้ วิ่งกลับตัวได้ดีกว่ากลุ่มเทคโนโลยี ที่เป็นผู้นำตลาดในช่วงที่ผ่านมา

เมื่อคืนนี้นายเจอโรม พาวเวล ก็ได้มีออกมาให้ความเห็นต่อสถานการณ์เศรษฐกิจและนโยบายการเงินที่เฟดทำไปไว้น่าสนใจหลายประเด็น ตามนี้

1. ยังเตือนว่า การฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐยังคงเผชิญกับความไม่แน่นอน ขณะที่ธุรกิจขนาดย่อม และผู้ที่มีรายได้ระดับต่ำ รเป็นกลุ่มที่เผชิญความเสี่ยงมากที่สุด

2. การฟื้นตัวอย่างสมบูรณ์จะยังไม่เกิดขึ้น จนกว่าประชาชนจะมีความเชื่อมั่นว่าไวรัสดังกล่าวได้ถูกควบคุมแล้ว

3. เฟดจะยังคงใช้ "เครื่องมือทุกอย่าง" เพื่อสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ (แต่ก็ไม่ได้ระบุว่าเฟดจะดำเนินมาตรการใดในอนาคต)

4. เฟดพร้อมจะถอนเครื่องมือทั้งหมดออก หากมีสัญญาณเศรษฐกิจฟื้นตัว และถึงเป้าหมายที่เฟดตั้งใจ ก็คือ การจ้างงานกลับมาฟื้น และ เงินเฟ้อกลับมาอยู่ในระดับ เป้าหมาย (Dual Mandate)

5. พาวเวล กล่างอ้างว่า ยอดค้าปลีกพุ่งขึ้น 17.7% ในเดือนพ.ค. ที่ทำสถิติทะยานขึ้นมากเป็นประวัติการณ์ และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 8.0% เป็นหลักฐานหนึ่งที่ชี้ให้เห็นว่า เครื่องมือของเฟดทำงานได้อย่างดี และมีความจำเป็นต้องทำอย่างต่อเนื่อง

ออกมาย้ำกันขนาดนี้ว่าจะทำทุกอย่าง แต่ก็เตือนตลาดว่า มีกลุ่มคนที่มีความเสี่ยง คือเหล่า SME และผู้มีรายได้น้อย ตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนก็เลยขึ้นแบบไม่ค่อยเต็มใจนัก และแรงซื้อ มาจากความคาดหวังของมาตรการอัดฉีด มากกว่าจะเชื่อว่าเศรษฐกิจจะฟื้นตัวได้หลังจากนี้จริงๆ

นี่คือสิ่งที่นักลงทุนต้องชั่งน้ำหนักกันต่อไปว่า ตลาดจะให้น้ำหนักแบบนี้ต่อไปอีกนานแค่ไหน

มุมมองทางเทคนิค

ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐฯทั้ง 3 ตลาด เหมือนจะจบการพักฐานอย่างรวดเร็ว ทั้ง Dow Jones และ S&P500 ก็ยืนเหนือ EMA 200 วันอีกรอบ น่าจะได้สิทธิไปต่ออีกซักช่วงหนึ่ง

กราฟดัชนีดาวโจนส์ ช่วง 7 วันที่ผ่านมา

กดดูความเคลื่อนไหวดัชนี Dow Jones

ขณะที่ฝั่งเอเชีย อาจจะเริ่มวิ่งช้าลง เพราะ เม็ดเงินจะไหลกลับสหรัฐฯช่วงสั้นๆ จากมาตรการสุดโหดจากเฟดในรอบนี้

Mr.Messenger รายงาน

บทความนี้ได้รับการเผยแพร่ครั้งแรกบนเพจ MrMessengerDiary

บทความห้ามพลาด

เฟด ยังคงเป็นผู้กำหนดชะตาโลก

หุ้นที่เหมาะสำหรับตั้งรับการระบาดรอบที่ 2 ของโควิด-19

พื้นฐาน VS ดัชนีตลาดหุ้นไทย

ความคิดเห็นล่าสุด

การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย