รับส่วนลด 40%
ใหม่! 💥 รับ ProPicks เพื่อดูกลยุทธ์ที่ให้ผลตอบแทน ชนะดัชนี S&P 500 มากกว่า 1,183% รับส่วนลด 40%

หุ้นที่เหมาะสำหรับตั้งรับการระบาดรอบที่ 2 ของโควิด-19

โดยInvesting.com
ผู้เขียนHaris Anwar
เผยแพร่ 15/06/2563 18:36

ความกดดันกลับเข้ามาปกคลุมตลาดหุ้นสหรัฐฯ อีกครั้งหลังจากที่นักวิเคราะห์บางส่วนเปลี่ยนความคิดและมองว่าขาขึ้นที่ดีดกลับขึ้นมาตั้งแต่วันที่ 23 มีนาคมเริ่มมีความไม่มั่นคง ความหวังที่จะได้เห็นเศรษฐกิจฟื้นตัวแบบ V-Shape เริ่มริบหรี่จนหลายๆ ฝ่ายเริ่มกังวลแล้วว่าการระบาดรอบที่ 2 ของโควิด-19 ในสหรัฐฯ จะนำมาซึ่งวิกฤตเศรษฐกิจที่ร้ายแรงที่สุดตั้งแต่ประเทศแห่งเสรีภาพนี้ก่อตั้งมา

นักลงทุนเริ่มสัมผัสถึงความน่ากลัวได้เมื่อช่วงกลางสัปดาห์ที่แล้วตอนที่ดัชนี S&P 500 ร่วงลง 6% และมีเงินจำนวน $2 ล้านล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐฯ หายไปจากตลาด หุ้นในหลายๆ กลุ่มถูกเทขายทันทีเช่นกลุ่มสายการบิน ธนาคาร โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มที่ได้รับคำแนะนำว่าจะสามารถฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว

แม้ว่าขาลงในวันพฤหัสบดีของ S&P 500 จะยังถือว่าเล็กน้อยเมื่อเทียบกับขาขึ้น 45% ตั้งแต่ช่วงปลายเดือนมีนาคมแต่ก็เป็นการชี้ให้เห็นถึงความเปราะบางของขาขึ้นที่นักวิเคราะห์กลุ่มเห็นต่างเคยเตือนมาก่อนหน้านี้ สิ่งที่นักลงทุนต้องการมากที่สุดในช่วงเวลาแห่งความไม่แน่นอนนี้คือ “หุ้นที่ไม่อ่อนไหวไปกับข่าวในตลาดได้ง่ายและสามารถถือครองเอาไว้ในระยะยาว” ในบทความนี้เราจะนำเสนอหุ้นที่มีคุณสมบัติดังกล่าวให้คุณผู้อ่านได้พิจารณากัน

1. Nike

ไนกี้ (NYSE:NKE) บริษัทเจ้าของแบรนด์กีฬาชื่อดังคือหุ้นที่จัดอยู่ในกลุ่ม “ซื้อแล้วถือเอาไว้ให้มั่น” ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับการกลับมาแพร่ระบาดของโควิด-19 ไนกี้เป็นบริษัทที่มีพื้นฐานทางการเงินแข็งแกร่งและสามารถก้าวผ่านช่วงเวลาที่เลวร้ายมาได้หลายต่อหลายครั้งNKE Weekly 2017-2020

จากรายงานผลประกอบการไตรมาสก่อนหน้านี้ระบุว่าไนกี้มีกำไรรวมแล้วทั้งสิ้น $3,200 ล้านเหรียญ แม้ว่าบริษัทจะมีหนี้ระยะยาวรวมมากกว่า $6,000 ล้านเหรียญดอลลาร์และมีวันครบกำหนดไถ่ถอนหนี้ถึงปี 2023 แต่ไนกี้ก็ยังมีสภาพคล่องที่ดีและหากจำเป็นต้องใช้เงินจริงๆ ไนกี้ก็สามารถหยุดการซื้อหุ้นคืน (มูลค่า $957 ล้านเหรียญ) เอาไว้ก่อนได้

แบรนด์ที่แข็งแกร่งและโมเดลธุรกิจของไนกี้คือสิ่งที่ทำให้บริษัทประสบความสำเร็จมาโดยตลอดแม้จะต้องผ่านการปรับเปลี่ยนเข้าสู่ยุค e-commerce และการมาถึงของโควิด-19 ที่ทำให้ร้านตัวแทนจัดจำหน่ายจำเป็นต้องระงับการให้บริการชั่วคราว ปัญหาเหล่านี้ก็ไม่ได้ทำให้ไนกี้เจ็บถึงขั้นล้มลงไปนอนกองกับพื้น นาย John Donahoe ผู้เป็น CEO ของบริษัทกล่าวกับนักวิเคราะห์ในช่วงปลายเดือนมีนาคมว่า “ไนกี้กำลังมีการเติบโตทางด้านของ e-commerce อย่างมีนัยสำคัญ แม้ว่าจะได้รับผลกระทบจากโควิดก็ตาม”

“ในช่วงที่ผู้คนกำลังเก็บตัวอยู่แต่ในบ้าน เราได้เปลี่ยนกลยุทธ์การค้ามาเป็นการซื้อขายผ่านแอปพลิเคชันและเราได้พัฒนาระบบเครื่องข่ายสำหรับการจัดส่งสินค้าออกมาอย่างมีประสิทธิภาพ” ในขณะที่พูด CEO ไนกี้ก็ได้สาธิตการใช้งานแอปฯ Nike Training Club ไปด้วย

หุ้นไนกี้ลงไปสร้างจุดต่ำสุดในเดือนมีนาคมเอาไว้ที่ $60.58 และสามารถกลับขึ้นมาได้อย่างน่าประทับใจจนมีราคาเทรดอยู่ที่ $96.43 ในปัจจุบัน หากว่าหลังจากผ่านช่วงวิกฤตโควิดไปแล้วและหุ้นของไนกี้เริ่มมีมูลค่าลดลง นักลงทุนยังสามารถหาจุดออกที่ดีและจากไปอย่างไม่เจ็บตัวได้

2. Home Depot

ร้านค้าขายวัสดุปรับปรุงบ้านขนาดใหญ่สัญชาติอเมริกันโฮม ดีพอตทำผลงานขาขึ้นได้อย่างน่าประทับใจในปี 2020 การที่ผู้คนจำเป็นต้องทำงานและใช้ชีวิตอยู่กับบ้านมากขึ้นทำให้อัตราการปรับปรุงบ้านเพิ่มขึ้นตาม นักวิเคราะห์จากแบงก์ ออฟ อเมริกา (BofA) มองว่ารูปแบบการทำงานของมนุษย์หลังจากวิกฤตโควิดจะเปลี่ยนไป พวกเขาจะพาตัวเองออกมาจากการกระจุกรวมตัวกันในเมืองและหันมาทำงานอยู่บ้านแทน การที่ทิศทางการใช้ชีวิตเปลี่ยนไปเป็นการอยู่บ้านมากขึ้นถือเป็นผลดีต่อหุ้นกลุ่มการก่อสร้างหรือทำธุรกิจเกี่ยวกับที่อยู่อาศัย
HD Weekly 2017-2020

แต่โฮม ดีพอต (NYSE:HD) นั้นแตกต่างไปจากบริษัทอื่นๆ พวกเขามีตัวเลขผลกำไรที่ดีมากถึง $1,100 ล้านเหรียญอยู่แล้วก่อนที่โควิด-19 จะมาเพราะบริษัทพึ่งจะพัฒนาร้านค้าตัวแทนจำหน่ายให้มีความทันสมัยมากขึ้น เพิ่มทางเลือกในการซื้อสินค้าออนไลน์เข้าไปเพื่อเป็นการเพิ่มทางเลือกให้กับผู้บริโภค เชื่อว่าเมื่อผ่านวิกฤติโควิดไปแล้ว บริษัทโฮม ดีพอตจะเป็น 1 ในบริษัทที่สามารถทำผลงานได้อย่างโดดเด่นและสามารถฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็วแน่นอน

จากการรายงานผลประกอบการไตรมาสที่ 1 พบว่ากำไร 80% ของโฮม ดีพอตมาจากการซื้อสินค้าผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ สาเหตุที่เป็นเช่นนั่นแน่นอนว่าเป็นผลกระทบมาจากโควิด-19 ที่บังคับให้มนุษย์ต้องใช้ชีวิตอยู่กับบ้าน นอกจากนี้สิ่งที่ทำให้หุ้นของโฮม ดีพอตน่าสนใจคือโฮม ดีพอตเป็นหนึ่งในบริษัทค้าปลีกที่สามารถเอาตัวรอดในช่วงแรกของการระบาดฯ ได้ ถ้าบริษัทสามารถผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากที่สุดมาได้ แน่นอนว่าย่อมทำผลงานในช่วงเวลาปกติได้ดี

ปัจจุบันหุ้นโฮม ดีพอตมีราคาปิดล่าสุดอยู่ที่ $242.45 แม้ว่าวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาหุ้นโฮม ดีพอตจะปรับตัวลง 6% แต่โดยรวมแล้วหุ้นโฮมดีพอตถือว่าอยู่ในขาขึ้น 72% หากนับตั้งแต่การฟื้นตัวจากจุดต่ำสุดในเดือนมีนาคม

3. General Mills

บริษัทผู้ทำธุรกิจอาหารมานานกว่า 100 ปี เจนเนอรัล มิลล์ (NYSE:GIS) คือตัวเลือกสำหรับการลงทุนแบบตั้งรับสุดท้ายที่เราอยากจะแนะนำ ไม่ว่าจะเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดหรือตกต่ำที่สุดอย่างไรมนุษย์ก็จำเป็นต้องบริโภคเพื่อความอยู่รอด ถ้าพูดถึงแบรนด์ เจอเนอรัล มิลล์ หลายคนอาจจะไม่รู้จักแต่บริษัทนี้คือผู้อยู่เบื้องหลังแบรนด์ชื่อดังอย่างเช่นอาหารเช้าซีเรียล Cheerios โยเกิร์ต Yoplait และซีเรียลบาร์ Nature Valley
GIS Weekly 2017-2020

จุดเด่นที่ทำให้หุ้นของเจนเนอรัล มิลล์มีความน่าสนใจคืออัตราผลตอบแทนที่ค่อนข้างคงที่ 3.24% ที่สำคัญบริษัททำการปันผลกำไรคืนแก่นักลงทุนมาตลอด 120 ปีไม่เคยหยุด นอกจากนี้บริษัทยังพยายามจะกระจายหนทางสร้างรายได้ด้วยการควบรวมบริษัท Blue Buffalo Pet Products ในปี 2018 ซึ่งถือเป็นดีลการซื้อขายที่ใหญ่ที่สุดในรอบ 18 ปีของบริษัท

ถึงอย่างนั้นหุ้นของเจนเนอรัล มิลล์ไม่ได้เป็นที่กล่าวถึงในช่วงเวลาปกติมากนักแต่ถ้าพูดถึงในยามวิกฤตแล้วนักลงทุนที่มีประสบการณ์จะมีหุ้นของเจอเนอรัล มิลล์อยู่ในใจเสมอ ล่าสุดหุ้นเจอเนอรัล มิลล์มีราคาเทรดอยู่ที่ $60.15 ปรับตัวขึ้นมาจากจุดต่ำสุดเมื่อเดือนมีนาคมแล้วทั้งสิ้น 28% และถ้าตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ จะร่วงลงอีกเพราะการระบาดของโควิด-19 ในรอบที่ 2 เชื่อได้เลยว่าหุ้น GIS จะเป็นหนึ่งในหุ้นที่ไม่มีความผันผวนสูง

ห้ามพลาดครับ

ตอนนี้เริ่มมีการพูดถึง 2nd Wave ของ COVID-19 เพราะ

ภาพรวมตลาดลงทุน: การกลับมาของโควิดกดดันตลาดหุ้นและการเปิดเมืองของสหรัฐฯ

ความคิดเห็นล่าสุด

ขอบคุณครับ
ขอบคุณครับ
การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย