Trading Snapshot
- ดัชนีดอลลาร์สหรัฐ US Dollar Index ( กดดูกราฟ) เมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงินร่วงลงแตะจุดต่ำสุดรอบ 3 เดือนในวันพุธ หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประกาศคงนโยบายการเงินไว้ตามเดิม และให้สัญญาว่าจะ เข้าซื 2อสินทรัพย์ต่อไป เพือทําให้เศรษฐกิจสหรัฐเข้าสู่เสถียรภาพ หลังจากเศรษฐกิจได้รับความ เสียหายจากโรคระบาด โดยเฟดไม่ได้ประกาศมาตรการจํากัดการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทน พันธบัตร คณะกรรมการกําหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของเฟดมีมติเป็นเอกฉันท์คงอัตรา ดอกเบี้ยระยะสั้นทีระดับ 0.00-0.25% และยืนยันว่าจะยังคงตรึงอัตราดอกเบี้ยทีระดับดังกล่าว จนกว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะฟื้นตัวขึ้นจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 และบรรลุเป้าหมาย ของเฟดในการจ้างงานอย่างเต็มศักยภาพ รวมทั้งรักษาเสถียรภาพของราคา ในการประชุมครั้งนี้ เฟดคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจสหรัฐจะหดตัวลง 6.5% ในปีนี้ ก่อนทีจะดีดตัวขึ้น 5% ในปี 2564 และคาดว่าอัตราว่างงานจะอยู่ทีระดับ 9.3% ในปี นี 2 ก่อนทีจะลดลงแตะระดับ 6.5% และ 5.5% ในปี 2564 และ 2565 ตามลําดับ
-นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟดได้แถลงข่าวต่อสือมวลชนภายหลังการประชุมว่า การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 และมาตรการต่างๆทีรัฐบาลสหรัฐนํามาใช้เพือควบคุมการแพร่ระบาดนั้น ส่งผลให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจทรุดตัวลงอย่างรุนแรง และทําให้ตัวเลขการว่างงานพุ่งขึ้นด้วย
ขณะเดียวกันมีแนวโน้มว่าผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ในไตรมาสปัจจุบันของสหรัฐจะลดลงมากทีสุดเป็นประวัติการณ์ ส่วนในตลาดแรงงานนั้น แม้ตัวเลขการ จ้างงานจะดีดตัวขึ้นอย่างเหนือความคาดหมายในเดือนพ.ค. แต่อัตราว่างงานยังคงอยู่ในระดับสูง โดยเฉพาะอย่างยิงการว่างงานในหมู่คนงานทีมีรายได้ตํา กลุ่มสตรี และชาวอเมริกัน เชื้อสายแอฟริกัน
ทั้งนี้ นายพาวเวลให้คํามันว่า เฟดจะใช้เครืองมือทั้งหมดทีมีอยู่เพือกระตุ้นตลาดแรงงานและเศรษฐกิจให้กลับคืนสู่สภาพดี นอกจากนี้เฟดระบุว่าจะยังคงเพิมการถือครองพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) โดยเฟดจะซื้อพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ วงเงิน 8 หมืนล้านดอลลาร์/เดือน และซื้อตราสารหนี้ทีมีสินเชือทีอยู่อาศัยเป็นหลักประกันการ จํานอง (MBS) ในวงเงิน 4 หมืนล้านดอลลาร์ ในการพิจารณา "dot plot" ซึงเป็นคาดการณ์ใน อนาคตของคณะกรรมการเฟดแต่ละคน พบว่า อัตราดอกเบี้ยระยะสั้นของเฟดมีแนวโน้มทรง ตัวทีระดับ 0.00-0.25% จนถึงปี 2565 และเฟดได้คงคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยระยะยาวทีระดับ 2.5%
บทความที่เกี่ยวข้อง
ผลประชุมเฟดไม่เร้าใจ แต่มั่นใจได้ว่าดอกเบี้ยต่ำอีกนาน
- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงหลังจากธนคารกลางสหรัฐคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจ สหรัฐจะหดตัวลง 6.5% ในปี นี 2 และนายเจอโรม พาวเวลประธานเฟด ได้แสดงความกังวล เกียวกับตลาดแรงงานและแนวโน้มเศรษฐกิจของสหรัฐ อย่างไรก็ดี ดัชนี NASDAQ Composite พุ่งขึ้นปิดทีเหนือระดับ 10,000 จุดเป็นครั้งแรก โดยได้ปัจจัยหนุนจากแรงซื้อหุ้นกลุ่มเทคโนโลย
- สัญญานํ้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเนืองจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ทําให้สัญญาน้ำมันดิบซึงกําหนดราคาในรูปสกุลเงินดอลลาร์นั้น เป็นปัจจัยดึงดูดแรงซื้อของนักลงทุนและช่วยหนุนสัญญาน้ำมันดิบปิดในแดนบวก แม้ตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐพุ่งขึ้นสวนทางการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ก็ตาม
- สัญญาทองคําตลาดนิวยอร์กปิดลบขณะทีนักลงทุนชะลอการซื้อขายก่อนทีจะรู้ผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) โดยตลาดทองคํานิวยอร์กปิดทําการซื้อ ขายก่อนทีคณะกรรมการเฟดจะแถลงมติการประชุม
- ภาวะตลาดพันธบัตรของไทยวานนี้ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรไทยรุ่นอายุ 5ปี (LB24DB) และและอัตราผลตอบแทนพันธบัตรไทยรุ่นอายุ 10ปี (LB29DA) ยังคงปรับตัวลดลงอย่าง ต่อเนืองจากวันทําการก่อนหน้า โดยรวมปรับตัวลดลงประมาณ 2-3 bps. ส่วนใหญ่มาจากนักลงทุนต่างชาติเข้ามาซื้อพันธบัตร และมีอัตราผลตอบแทนล่าสุด 0.78% และ 1.16% ตามลําดับ ปิดตลาดสิ้นวันนักลงทุนต่างชาติซื้อพันธบัตรสุทธิ 3,040.09 ล้านบาท และเป็นการซื้อพันธบัตรรุ่นอายุมากกกว่า 1 ปี จํานวน 1,778.14 ล้านบาท
บทความนี้มาจากศูนย์วิจัยกรุงศรี สามารถอ่านบทวิเคราะห์ฉบับเต็มได้ที่ www.krungsri.com
ข่าวที่เกียวข้อง
ค่าเงินบาท( 11 มิ.ย.) ยังแข็งค่าต่อเนื่อง ใกล้แตะ 31.00 บาทต่อดอลลาร์