- ภาพรวมการลงทุนวันนี้ – เราคาดว่า SET จะยังคงผันผวนจากความไม่แน่นอนของ สถานการณ์ COVID-19 โดยตลาดหุ้นไทย และภูมิภาคตอบรับปัจจัยบวกเกี่ยวกับการพัฒนาวัคซีนที่มีความคืบหน้ามากขึ้นไปแล้ววานนี้ (15 ก.ค.) นอกจากนี้ตลาดหุ้นไทยยังมีความเสี่ยงจากการประกาศผลประกอบการ 2Q63 ซึ่งจะเริ่มจากกลุ่มธนาคาร โดยเราคาดว่ากลุ่มธุรกิจจะมีกeไรสุทธิ 2Q63 รวมลดลง 4.9%QoQ และลดลง 22.7%YoY
ขณะที่การฟื้นตัว ของราคานheมันดิบจากผลของปริมาณสำรองที่ลดลงมากกว่าคาด เราเชื่อว่าจะส่งผลบวกต่อหุ้นในกลุ่มพลังงานไม่มาก แนะนeเพียงการเก็งกำไร ทำให้ตลาดหุ้นไทยยังคงรอปัจจัยบวก ใหม่สนับสนุนการลงทุน โดยปัจจัยในประเทศยังต้องติดตามสถานการณ์การเมือง รวมทั้งการ เปิดเผยรายชื่อทีมเศรษฐกิจชุดใหม่ - มติ OPEC+ ตามคาด เชื่อหนุนราคาน้ำมันดิบเพียงระยะสั้น - OPEC+ มีมติผ่อนคลายข้อตกลง ปรับลดกำลังผลิต โดยเห็นชอบให้ปรับลดการผลิตเพียง 7.7 ล้านบาร์เรลต่อวัน (เดิม 9.7 ล้าน บาร์เรลต่อวัน) โดยมติดังกล่าวจะเริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่เดือน ส.ค. 63 ไปจนถึงสิ้นปี 2563
เรามองประเด็นดังกล่าวเป็นบวกต่อราคาน้ำมันดิบเพียงระยะสั้น แนะน้าเพียงเก็งกำไร เราเลือก (BK:PTTEP) TOP และ PTTGC โดยมีปัจจัยบวกหนุนระยะสั้นจากการคาดหมายผลประกอบการ 2Q63 พลิกกลับมาเป็นกำไรของกลุ่มธุรกิจโรงกลั่น เรามองว่าสัญญาน้้ามันดิบ สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบ WTI ตอบรับเชิงบวกต่อประเด็นดังกล่าว รวมทั้งการรายงานปริมาณสำรองน้ำมันดิบสหรัฐฯ ที่ลดลงมากกว่าคาด เป็นเพียงระยะสั้น
อย่างไรก็ตามตลาดน้ำมันยังมีโอกาสผันผวนในช่วงที่เหลือของปี จากความไม่แน่นอนของสถานการณ์ COVID-19 และการฟื้นตัวของความต้องการใช้น้ำมันที่ล่าช้า ทำให้ มาตรการผ่อนคลายการปรับลดการผลิตของ OPEC+ จะทำให้ตลาดกลับมากังวลต่อภาวะอุปทานส่วนเกินในระยะต่อไป - สัปดาห์นี้ยังมีประเด็นที่น่าสนใจจากการประชุม ECB และรายงาน GDP ช่วง 2Q63 ของจีน – ธนาคารกลางยุโรป (ECB) และการประชุมสุดยอดสหภาพยุโรป (EU) สัปดาห์นี้ ประเด็นสำคัญ อยู่ที่การขออนุมัติจัดตั้งกองทุนฟื้นฟูเศรษฐกิจจากผลกระทบของ COVID-19 ขนาด 7.50 แสน ล้านยูโร (8.51 แสนล้านดอลลาร์) จากกลุ่มประเทศสมาชิก EU ขณะที่จีนจะมีการายงาน GDP ช่วง 2Q63 (รายงานวันที่ 16 ก.ค.) คาดว่าจะเติบโต 2.1% (GDP ช่วง 1Q63 อยู่ที่ -6.8%)
- ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) รายงานการผลิตภาคอุตสาหกรรมโดยรวมของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 5.4% ในเดือน มิ.ย. เป็นการปรับเพิ่มขึ้น 2 เดือนติดต่อกัน หลังจากปรับตัวขึ้น 1.4% ในเดือน พ.ค. ขณะที่กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เปิดเผย ดัชนีราคานำเข้าเพิ่มขึ้น 1.4% ในเดือน มิ.ย. เพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากเดือน พ.ค. ที่ 0.8% และเป็นการปรับตัวขึ้นมากที่สุด นับตั้งแต่เดือน มี.ค. 2555
- รายงานเศรษฐกิจของสหรัฐฯ สัปดาห์นี้ – จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ / ยอดค้า ปลีกเดือน มิ.ย. / ดัชนีการผลิตเดือน ก.ค. จากเฟด สาขาฟิลาเดลเฟีย / ดัชนีตลาดที่อยู่อาศัย เดือน ก.ค. จากสมาคมผู้สร้างบ้านแห่งชาติ (NAHB) / สต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือน พ.ค. / ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านและการอนุญาตก่อสร้างเดือน มิ.ย. และความเชื่อมั่นผู้บริโภคขั้นต้น เดือน ก.ค. จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน
- บทวิเคราะห์วันนี้ – Earnings Preview: LPN / Key Takeaways: CCP
- มุมมองทางเทคนิค – เราคาดว่า SET Index วันนี้จะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 1,347 – 1,364 จุด (มีแนวรับอยู่ที่ 1,352 1,347 และ 1,340 จุด และมีแนวต้านอยู่ที่ 1,359 1,364 และ 1,371 จุด)
บทวิเคราะห์นี้จัดทำขึ้นและเผยแพร่โดยทีมนักวิเคราะห์ของ Asia Wealth Securities
ห้ามพลาด
♦จีนนำเข้าน้ำมันดิบสูงสุดเป็นประวัติการณ์
♦กองทุนรวมจีนกระแสตอบรับล้นหลาม ทั้งกระแสเงินสดไหลเข้าและกองทุนเปิดใหม่จำนวนมาก
♦การประชุมโอเปกไม่มีเซอร์ไพรส์ แต่น้ำมันจะไม่เพิ่มมาในตลาดมากเท่าที่คาด