Michal Gromek ประธานร่วมของคณะทำงานด้านสินทรัพย์ดิจิทัล (Digital Asset Task Force) ซึ่งเป็นคณะกรรมการของ Global Coalition to Fight Financial Crime กล่าวว่า คริปโตเคอร์เรนซี่อย่าง Bitcoin หรือ Ethereum นั้นสามารถ “ถูกติดตามได้ง่าย” และผู้ต้องสงสัยที่น่าจะเป็นอาชญากรไม่สามารถใช้ Crypto เพื่อเป็นเครื่องมือในการหลบหนีได้เลย “การทำธุรกรรมบนบล็อคเชนที่อาชญากรส่วนใหญ่คิดว่าจะช่วยให้พวกเขาสามารถหลบหนีและไม่ถูกลงโทษนั้นไม่เป็นความจริง” เขากล่าวว่า “การทำธุรกรรมที่น่าสงสัยส่วนมากสามารถถูกติดตามได้โดยง่าย” Michal Gromek กล่าวว่า เว็บเทรดคริปโตส่วนใหญ่มักจะอยู่ภายใต้กฎ KYC (Know-Your-Customer) และกฎหมายต่อต้านการฟอกเงิน ซึ่งนี่จะทำให้การติดตามอาชญากรทำได้ง่ายมากยิ่งขึ้น “ในระดับโลกนั้น เรามีหน่วยงานด้านการดำเนินการทางการเงิน เพื่อให้มั่นใจว่าโบรกเกอร์คริปโตเคอร์เรนซีนั้นจะอยู่ภายใต้กฎหมาย” เขากล่าวอธิบาย “เมื่อคุณส่งเงินไปยังกระเป๋าเงินอื่น จากนั้นส่งไปยังนิติบุคคลที่กำลังถูกคว่ำบาตร นี่จะยังคงปรากฎให้เห็นบนบล็อคเชน และสามารถตรวจเช็คประวัติการทำธุรกรรมได้” อาชญากรรมทางการเงิน มันไม่ใช่ “ทางเลือกที่ฉลาด” ที่จะใช้คริปโตเคอร์เรนซีที่ “ไม่ได้เป็นส่วนตัวทั้งหมด” อย่างการใช้ Bitcoin หรือ Ethereum เพื่อทำธุรกรรมผิดกฎหมาย Michal Gromek กล่าว “จากรายงาน การทำธุรกรรมที่ผิดกฎหมายบนบล็อคเชนคิดเป็น 0.15% ของการทำธุรกรรมทั้งหมด”
กดอ่านข่าว ประธานร่วม DATF กล่าวว่า Crypto นั้น “ง่ายต่อการติดตามและไม่เป็นส่วนตัวอย่างที่คิด” ต่อที่ Siam Blockchain