InfoQuest - ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ปรับตัวขึ้นเกือบ 100 จุด บ่งชี้การดีดตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่งของตลาดหุ้นวอลล์สตรีทในวันนี้ ก่อนปิดฉากเดือนพ.ย.ในวันพรุ่งนี้
ณ เวลา 18.38 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์บวก 97 จุด หรือ 0.27% สู่ระดับ 35,542 จุด
ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทปรับตัวอย่างแข็งแกร่งในเดือนนี้ โดยดัชนีดาวโจนส์ดีดตัวขึ้น 7.2% นับตั้งแต่ต้นเดือนพ.ย. ขณะที่ดัชนี S&P 500 ทะยานขึ้น 8.6% ส่วนดัชนี Nasdaq พุ่งขึ้น 11.1% ท่ามกลางการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้ยุติวงจรการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยแล้ว หลังจากที่ได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 11 ครั้งนับตั้งแต่ที่เริ่มวัฏจักรปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมี.ค.2565 ส่งผลให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยรวม 5.25%
ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนคาดว่าเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 5.25-5.50% ในการประชุมเดือนธ.ค.2566, ม.ค.2567, มี.ค.2567 และพ.ค.2567 ก่อนที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 5.00-5.25% ในการประชุมเดือนมิ.ย.2567
นอกจากนี้ นักลงทุนจับตาดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ที่จะมีการเปิดเผยในวันพรุ่งนี้ โดยดัชนี PCE เป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่เฟดให้ความสำคัญ เนื่องจากสามารถตรวจจับการเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมของผู้บริโภค และครอบคลุมราคาสินค้าและบริการในวงกว้างมากกว่าดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI)
นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ดัชนี PCE ชะลอตัวลงในเดือนต.ค. ซึ่งจะเป็นปัจจัยหนุนให้เฟดยุติการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
ทั้งนี้ คาดว่าดัชนี PCE ทั่วไป ซึ่งรวมหมวดอาหารและพลังงาน ปรับตัวขึ้น 3.1% ในเดือนต.ค. เมื่อเทียบรายปี จากระดับ 3.4% ในเดือนก.ย.
เมื่อเทียบรายเดือน คาดว่าดัชนี PCE ทั่วไป ปรับตัวขึ้น 0.1% ในเดือนต.ค. จากระดับ 0.4% ในเดือนก.ย.
ส่วนดัชนี PCE พื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน คาดว่าปรับตัวขึ้น 3.5% ในเดือนต.ค. เมื่อเทียบรายปี จากระดับ 3.7% ในเดือนก.ย.
เมื่อเทียบรายเดือน คาดว่าดัชนี PCE พื้นฐานปรับตัวขึ้น 0.2% ในเดือนต.ค. จากระดับ 0.3% ในเดือนก.ย.