Cyber Monday Deal: ลดสูงสุด 60% InvestingProรับส่วนลด

(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้าปรับขึ้นตามภูมิภาค หลังจีนเจรจาแบงก์ปล่อยกู้ฟื้นศก.-หวังโหวตนายกฯผ่านฉลุย

เผยแพร่ 21/08/2566 16:47
© Reuters. (เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้าปรับขึ้นตามภูมิภาค หลังจีนเจรจาแบงก์ปล่อยกู้ฟื้นศก.-หวังโหวตนายกฯผ่านฉลุย
CL
-

InfoQuest - นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล, CISA ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวขึ้น สอดคล้องตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชีย ตอบรับธนาคารกลางจีน (PBOC) และหน่วยงานกำกับดูแลด้านการเงินและหลักทรัพย์ของประเทศจีน ได้ประชุมกับผู้บริหารธนาคารต่าง ๆ พร้อมขอให้ธนาคารเหล่านี้ปล่อยเงินกู้มากขึ้น เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ รวมถึงราคาน้ำมันดิบก็ปรับตัวขึ้นมาด้วย

ขณะที่ปัจจัยในประเทศนักลงทุนคาดหวัง การโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีในวันที่ 22 ส.ค.นี้ จะสำเร็จไปได้ด้วยดี โดยให้ติดตามการแถลงข่าวการจัดตั้งรัฐบาลของพรรคเพื่อไทยในวันนี้ ซึ่งจะหนุนให้ตลาดปรับตัวขึ้น

ให้แนวรับไว้ที่ 1,515-1,510 จุด และแนวต้าน 1,535-1,540 จุด

*ประเด็นพิจารณาการลงทุน

- ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (18 ส.ค.)ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 34,500.66 จุด เพิ่มขึ้น 25.83 จุด หรือ +0.07%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,369.71 จุด ลดลง 0.65 จุด หรือ -0.01% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 13,290.78 จุด ลดลง 26.16 จุด หรือ -0.20%

- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวเปิดตลาดที่ระดับ 31,552.85 จุด เพิ่มขึ้น 102.09 จุด หรือ +0.32%, ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดที่ระดับ 17,798.47 จุด ลดลง 152.38 หรือ -0.84% และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนเปิดที่ระดับ 3,125.99 จุด ลดลง 5.96 จุด หรือ -0.20%

- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (18 ส.ค.66) 1,519.12 จุด ลดลง 9.69 จุด (-0.63%) มูลค่าซื้อขาย 56,886.66 ล้านบาท

- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 28.81 ล้านบาท เมื่อวันที่ 18 ส.ค.66

- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ก.ย. 18 ส.ค.)เพิ่มขึ้น 86 เซนต์ หรือ 1.1% ปิดที่ 81.25 ดอลลาร์/บาร์เรล แต่ปรับตัวลง 2.3% ในรอบสัปดาห์นี้

- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (18 ส.ค.) อยู่ที่ 14.13 เหรียญ/บาร์เรล

- เงินบาทเปิด 35.37 แข็งค่าจากท้ายสัปดาห์ก่อนเล็กน้อย เกาะติด GDP Q2/66 วันนี้

- สภาพัฒน์จ่อหั่นจีดีพีปีนี้ ผลส่งออกทรุด-ตั้งรัฐบาลช้า-รายได้ท่องเที่ยว ไม่ฟื้น "ทีดีอาร์ไอ" ประเมินจีดีพี 3.0-3.5% จากท่องเที่ยวฟื้นตัว ส่วน "นิด้า" แนะประคองเศรษฐกิจโต 3% รับส่งออกและท่องเที่ยวชะลอ

- เพื่อไทย" ดันนโยบายหาเสียง 1.8 ล้านล้านบาท หนุนเงินดิจิทัล จัดสวัสดิการผู้สูงวัย บริหารจัดการน้ำ "ทีดีอาร์ไอ" ชี้กระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้นจำเป็น แต่ควรใช้แค่ 1-2 แสนล้าน แนะลดใช้งบแทนการกู้ "ณรงค์ชัย" หนุนเงินดิจิทัล ดันไทยเข้ายุค Web3.0 แต่ให้ทยอย ห่วงรัฐบาลวุ่นวายเหตุแบ่ง งบประมาณไม่ลงตัว แนะขึ้นภาษีหากจ่ายสวัสดิการคนแก่ถ้วนหน้า

- "อุ๊งอิ๊ง" ทำบุญวันเกิด 37 ขวบล่วงหน้า ขอพรพระให้ "ทักษิณ" กลับบ้านราบรื่น-ปลอดภัย ขอโทษ ปชช.จับมือ 2 ลุง เหตุแลนด์สไลด์ไม่สำเร็จ มั่นใจ "เศรษฐา" ได้เป็นนายกฯ ยังกั๊กนั่ง รมต. ขอลุยงานพรรคก่อน "เพื่อไทย" นัดพรรคร่วมฯ แถลงตั้ง รบ.วันนี้ มี พปชร.-รทสช.ด้วย

- ตลาดหุ้นกู้ยังเสี่ยง วงการจับตา "หุ้นกู้" ที่เตรียมครบกำหนดชำระปีนี้ หวั่นเป็นระเบิดเวลา โดยเฉพาะกลุ่มอสังหาฯ-ก่อสร้าง หวังทุกภาคส่วนช่วยจำกัดความเสี่ยงป้องโดมิโนเอฟเฟกต์ ด้านนักลงทุนสถาบัน เข้มลงทุน ขอจ่ายผลตอบแทนรายเดือนในกลุ่มนอนเรตติ้ง ย้ำลงทุนระดับ A หรือ บิ๊กเนม ปลอดภัยสุด

*หุ้นเด่นวันนี้

- TRUE (ดาโอ) เป้าเชิงกลยุทธ์ 7.20 บาท)คาดรายได้บริการจะฟื้นตัวครึ่งปีหลัง จากฐานลูกค้าที่เพิ่มขึ้น และ IPHONE ออกโทรศัพท์รุ่นใหม่ (ปลาย ก.ย.) หนุนด้วย ARPU ของธุรกิจ Mobile และ Broadband ที่ฟื้นตัวพร้อมกับ Subscriber ตาม Seasonal ผลการดำเนินงานไตรมาส 2-3 ปี 66 ที่ออกมาขาดทุน 2.3 พันลบ. ขณะที่ EBITDA ยังเป็นบวก ถึง 2.2 หมื่นลบ. เนื่องจากมีค่าใช้จ่ายทางบัญชี ในรายการค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย (ขยายโครงข่าย+ปรับอายุการใช้งานของสินทรัพย์) เราจึงไม่ได้มองว่า การรายงานว่าขาดทุน ทำให้หุ้นดูไม่น่าสนใจ Bloomberg Consensus ประเมินกำไรสุทธิปี 2566 ยังขาดทุน 4.2 พันลบ. แต่ ปี 2567 จะพลิกจากขาดทุนมาเป็นกำไร 2.5 พันลบ. ตามลำดับ

- BEM (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ" ราคาเป้าหมาย 11.50 บาท เรายังคงมุมมองเชิงบวกต่อแนวโน้มผลการดำเนินงานครึ่งปีหลัง จากปัจจัยูกาลซึ่งปกติจะดีกว่าครึ่งปีแรก ปริมาณผู้โดยสารรถไฟฟ้าและจำนวนรถยนต์บนทางด่วนที่ยังอยู่ในระดับสูงและเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง

หากสามารถจัดตั้งรัฐบาลใหม่ได้ภายในไตรมาส 3/66 เราคาดว่าจะเป็น Sentiment บวกจากโอกาสที่จะได้เซ็นสัญญารถไฟฟ้าสายสีส้มที่ชนะประมูลไปแล้วช่วยหนุนการเติบโตระยะยาว ขณะที่ราคาหุ้นยังไม่สะท้อนมูลค่าส่วนเพิ่ม 1-1.50 บาท- BCH (กรุงศรี) "ซื้อ" เป้า 20 บาท สธ. ระบุมีผู้ป่วยไข้เลือดออกในประเทศเพิ่มขึ้น 5-6 พันคนต่อสัปดาห์ เสี่ยงการระบาดในปีนี้อาจพุ่งสูงสุดในรอบกว่า 3 ปี เป็นบวกต่อหุ้นกลุ่มโรงพยาบาลโดยเฉพาะผู้ประกอบการที่เน้นผู้ป่วยในประเทศ

กดอ่านข่าวต้นฉบับจาก InfoQuest

ความคิดเห็นล่าสุด

การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย