โดย Ambar Warrick
Investing.com -- หุ้นจีนดีดกลับจากการขาดทุนเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา เนื่องจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหม่จากปักกิ่งช่วยชดเชยความกังวลเกี่ยวกับการหยุดชะงักทางเศรษฐกิจที่เกิดจากการประท้วงต่อต้านรัฐบาล โดยหุ้นอสังหาริมทรัพย์ทำกำไรได้มากที่สุด
ดัชนีหุ้นบลูชิพ CSI 300 พุ่งขึ้น 2.3% ชดเชยการขาดทุนทั้งหมดในวันจันทร์ และแตะระดับสูงสุดในรอบหนึ่งสัปดาห์ ดัชนี เซี่ยงไฮ้คอมโพสิต เพิ่มขึ้น 1.7% และซื้อขายที่ระดับสูงสุดในรอบสองสัปดาห์
ตลาดหุ้นฮ่องกงปรับตัวขึ้นทำกำไรเช่นกัน โดยดัชนี ฮั่งเส็ง เพิ่มขึ้น 3.6% สู่ระดับสูงสุดในรอบ 10 วัน
หุ้นบริษัทอสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่เป็นหุ้นที่มีผลงานดีที่สุดในทั้ง 3 ดัชนี หลังจากที่หน่วยงานกำกับดูแลหลักทรัพย์ของจีนยกเลิกการห้ามการจัดหาเงินทุนตราสารทุนเป็นเวลานานหลายปีสำหรับภาคอสังหาริมทรัพย์ที่มีปัญหา
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเปิดโอกาสให้มีช่องทางการระดมทุนแนวใหม่สำหรับภาคอสังหาริมทรัพย์ที่ประสบปัญหา ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนเกือบหนึ่งในสี่ของเศรษฐกิจจีน ปักกิ่งได้ระงับทางเลือกในการจัดหาเงินทุนสำหรับภาคส่วนนี้ในปี 2009 เพื่อควบคุมราคาที่อยู่อาศัยที่พุ่งสูงขึ้น
หุ้นของบริษัท Country Garden Holdings Company Ltd (HK:2007) Longfor Properties Co Ltd (HK:0960) และ Beijing Urban Construction Investment & Development Co Ltd (SS: 600266) เพิ่มขึ้นระหว่าง 8% ถึง 11% ภาคอสังหาริมทรัพย์ได้รับผลกระทบจากการผิดนัดชำระหนี้จำนวนมากในช่วงสองปีที่ผ่านมา ซึ่งทำให้ความเชื่อมั่นของประชาชนต่อตลาดอสังหาริมทรัพย์แย่ลง
มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจใหม่ช่วยให้ตลาดมองข้ามการประท้วงต่อต้านรัฐบาลที่ทวีความรุนแรง เนื่องจากประชาชนชาวจีนจำนวนมากขึ้นเรื่อย ๆ แสดงความไม่พอใจต่อนโยบายปลอดโควิดที่เข้มงวดของปักกิ่ง
ความกังวลเกี่ยวกับการหยุดชะงักทางเศรษฐกิจเพิ่มมากขึ้นจากการประท้วงทำให้ตลาดเอเชียสั่นคลอนในวันจันทร์ ขณะที่จีนก็เผชิญกับการติดเชื้อโควิด19 ที่เพิ่มขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในแต่ละวัน
แต่นักวิเคราะห์บางคนเห็นว่าการประท้วงจะกดดันรัฐบาลให้ผ่อนคลายนโยบายปลอดโควิดในที่สุด ซึ่งเป็นสถานการณ์ที่เป็นบวกต่อตลาดจีน
"'การยึดติดกับนโยบายปลอดโควิด จะฟังดูเหมือนนโยบายที่ว่า 'บ้านมีไว้อยู่อาศัย ไม่ใช่เพื่อเก็งกำไร' มากขึ้นเรื่อย ๆ" Hao Hong นักเศรษฐศาสตร์ชาวจีนกล่าวบน Twitter
นโยบายปลอดโควิดเป็นหัวใจสำคัญของวิกฤตเศรษฐกิจของจีนในปีนี้ และยังกระตุ้นให้หุ้นถูกเทขายอย่างหนักในตลาดหุ้น เนื่องจากการล็อกดาวน์หลายครั้งทำให้กิจกรรมทางธุรกิจหยุดชะงัก
แต่จนถึงขณะนี้รัฐบาลยังคงย้ำถึงความมุ่งมั่นในการดำเนินการนโยบายดังกล่าว โดยอ้างถึงอัตราการฉีดวัคซีนที่ต่ำและการขาดโครงสร้างพื้นฐานสำหรับผู้ป่วยหนัก