Southwest วางแผนเปลี่ยนที่นั่งเพื่อเพิ่มรายได้

เมื่อ วันพฤหัสบดี Southwest Airlines ได้ประกาศชุดความคิดริเริ่มที่มุ่งปรับปรุงการจัดที่นั่งและข้อเสนอบริการ สายการบินในดัลลัสมีกําหนดที่จะยุตินโยบายการเปิดที่นั่งที่มีมาอย่างยาวนาน ซึ่งเป็นการเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นท่ามกลางแรงกดดันทางการเงินที่รุนแรงขึ้นจากการส่งมอบเครื่องบินที่ล่าช้าจากโบอิ้ง และตลาดภายในประเทศที่มีความจุที่นั่งส่วนเกินซึ่งนําไปสู่การลดค่าโดยสารเครื่องบิน

ผลประกอบการล่าสุดของบริษัทได้รับผลกระทบเนื่องจากความล่าช้าเหล่านี้จากโบอิ้ง ซึ่งส่งผลกระทบต่อรายได้และเพิ่มแรงกดดันด้านต้นทุน แนวโน้มทางการเงินในปัจจุบันของ Southwest ชี้ให้เห็นถึงไตรมาสที่สามที่ท้าทาย โดยรายได้ต่อหน่วยคาดว่าจะทรงตัวหรือลดลงถึง 2% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ในขณะที่ต้นทุนการดําเนินงานที่ไม่ใช่เชื้อเพลิงคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 11% ถึง 13%

Thomas Fitzgerald นักวิเคราะห์ของ TD Cowen กล่าวว่าการคาดการณ์ของสายการบินบ่งชี้ถึงการขาดทุนที่อาจเกิดขึ้นในไตรมาสปัจจุบันและสถานการณ์คุ้มทุนสําหรับไตรมาสสุดท้ายของปี แม้จะมีความท้าทายเหล่านี้ แต่หุ้นของ Southwest ก็เพิ่มขึ้นเล็กน้อยในการซื้อขายช่วงเช้า โดยเพิ่มขึ้นประมาณ 1.5% เป็น 27.03 ดอลลาร์

ซึ่งแตกต่างจากคู่แข่งอย่างเดลต้าและยูไนเต็ดแอร์ไลน์ซึ่งพึ่งพาเที่ยวบินระหว่างประเทศและห้องโดยสารระดับพรีเมียมเพื่อรักษาผลกําไร Southwest ไม่ได้เสนอตัวเลือกเหล่านี้ อย่างไรก็ตาม สายการบินได้ระบุความพึงพอใจของลูกค้าอย่างมากสําหรับที่นั่งที่กําหนด โดย 80% ของลูกค้าและ 86% ของผู้มีโอกาสเป็นลูกค้าสนับสนุนการเปลี่ยนแปลง ในการตอบสนอง Southwest กําลังวางแผนที่จะแนะนําที่นั่งระดับพรีเมียมที่มีพื้นที่วางขาขยาย ซึ่งคาดว่าจะคิดเป็นประมาณหนึ่งในสามของที่นั่งบนเครื่องบิน

การนํารูปแบบห้องโดยสารใหม่ไปใช้ขึ้นอยู่กับการอนุมัติจากสํานักงานบริหารการบินแห่งสหพันธรัฐสหรัฐฯ และมีกําหนดจะเปิดให้จองในปี 2025 Bob Jordan ซีอีโอของ Southwest เน้นย้ําถึงแนวทางเชิงรุกของบริษัทในการจัดการกับความท้าทายด้านรายได้ในทันที

สายการบินยังเปิดเผยแผนการที่จะเริ่มเที่ยวบินข้ามคืนตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ และจะให้รายละเอียดเพิ่มเติมในช่วงงานวันนักลงทุนในเดือนกันยายน

ขณะนี้ Southwest กําลังเจรจากับโบอิ้งเกี่ยวกับผลกระทบทางการเงินของความล่าช้าในการส่งมอบเครื่องบิน และกําลังขอค่าชดเชยผ่านส่วนลดราคา แม้จะมีอุปสรรค แต่สายการบินก็สามารถแซงหน้าความคาดหมายของนักวิเคราะห์ในไตรมาสที่สอง โดยโพสต์กําไรที่ปรับปรุงแล้วที่ 58 เซนต์ต่อหุ้น เทียบกับประมาณการเฉลี่ยที่ 51 เซนต์ต่อหุ้น ตามข้อมูลของ LSEG

ข้อมูลเชิงลึกของ InvestingPro

ในขณะที่ Southwest Airlines (LUV) เผชิญกับความท้าทายทางการเงินและการดําเนินงาน ข้อมูลล่าสุดจาก InvestingPro นําเสนอมุมมองที่หลากหลายเกี่ยวกับผลการดําเนินงานของบริษัท ด้วยมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด 16.36 พันล้านดอลลาร์ Southwest เป็นผู้เล่นที่สําคัญในอุตสาหกรรมสายการบินโดยสาร อัตราส่วนราคาต่อกําไร (P/E) ของบริษัท ซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ 41.76 บ่งชี้ว่านักลงทุนกําลังจ่ายราคารายได้ที่สูงขึ้นเมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรม ผลประกอบการที่สูงนี้อาจสะท้อนให้เห็นถึงการมองโลกในแง่ดีของตลาดเกี่ยวกับความคิดริเริ่มเชิงกลยุทธ์ของบริษัท เช่น การปรับปรุงการจัดที่นั่งและข้อเสนอบริการ

นอกจากนี้ การเติบโตของรายได้ของ Southwest ในช่วงสิบสองเดือนที่ผ่านมาเป็นบวกที่ 7.6% ซึ่งบ่งชี้ถึงรูปแบบธุรกิจที่ยืดหยุ่นแม้จะมีอุปสรรคจากการส่งมอบเครื่องบินที่ล่าช้าและตลาดภายในประเทศที่มีการแข่งขันสูง มาตรการเชิงรุกของบริษัท รวมถึงการแนะนําที่นั่งระดับพรีเมียมและเที่ยวบินข้ามคืนตามแผน อาจช่วยเพิ่มกระแสรายได้และความพึงพอใจของลูกค้า

จากมุมมองด้านการดําเนินงาน Southwest ได้แสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพด้วยอัตรากําไรขั้นต้น 22.81% ในช่วงสิบสองเดือนที่ผ่านมา ณ ไตรมาสที่ 1 ปี 2024 นี่เป็นข้อพิสูจน์ถึงความสามารถของบริษัทในการจัดการโครงสร้างต้นทุนและรักษาความสามารถในการทํากําไรในสภาพแวดล้อมที่ท้าทาย

เคล็ดลับของ InvestingPro เผยให้เห็นว่า Southwest ถือเงินสดมากกว่าหนี้ในงบดุล ซึ่งเป็นตัวบ่งชี้ที่แข็งแกร่งของสถานะทางการเงิน และให้สายการบินมีเบาะในการรับมือกับความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ นอกจากนี้ บริษัทคาดว่าจะทํากําไรได้ในปีนี้ ตามที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ ซึ่งอาจเป็นจุดที่น่าสนใจสําหรับนักลงทุน

สําหรับการวิเคราะห์เชิงลึกเพิ่มเติมและเคล็ดลับพิเศษ ผู้อ่านสามารถสํารวจข้อมูลเชิงลึกเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Southwest Airlines ได้ที่ InvestingPro มีเคล็ดลับ InvestingPro อีก 5 ข้อสําหรับผู้ที่สนใจเจาะลึกข้อมูลทางการเงินและการคาดการณ์ของบริษัท อย่าลืมใช้รหัสคูปอง PRONEWS24 เพื่อรับส่วนลดสูงสุด 10% สําหรับการสมัครสมาชิก Pro รายปีและรายปีหรือรายปักษ์สําหรับการวิเคราะห์และข้อมูลเชิงลึกทางการเงินจากผู้เชี่ยวชาญเพิ่มเติม

บทความนี้ถูกแปลโดยใช้ความช่วยเหลือจากปัญญาประดิษฐ์(AI) สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดอ่านข้อกำหนดการใช้งาน