ราคาทองคําวันนี้ (23 ก.ย.) มีการปรับตัวขึ้นสร้างระดับสูงสุดตลอดกาลครั้งใหม่ที่ 2,631.26 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ทั้งนี้ ราคาทองคํายังมีแรงหนุนที่สําคัญ จากประเด็นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) โดยในคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา (20 ก.ย.) นายคริสโตเฟอร์ วอลเลอร์ หนึ่งในคณะผู้ว่าการเฟด ให้ถ้อยแถลงที่ชี้ถึงโอกาสการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง ด้วยขนาด 0.50% หลังจากนี้ หากภาวะตลาดแรงงานของสหรัฐนั้น อ่อนแอกว่าที่ประเมินไว้ นักลงทุนจึงเพิ่มโอกาสที่ เฟดอาจมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยได้อีก 0.75% ภายในสิ้นปีนี้ ค่าเงินดอลลาร์และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ จึงถูกกดดันให้เคลื่อนไหวในระดับต่ํา อย่างไรก็ดี ในช่วงบ่ายวันนี้ มีการเปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายซื้อ (PMI) เดือนก.ย. ของฝรั่งเศส, เยอรมนี และสหภาพยุโรป ที่ล้วนออกมาย่ําแย่กว่าคาดการณ์ โดยเฉพาะ PMI ภาคการผลิตของเยอรมนี ที่ปรับตัวลงสู่ระดับ 40.3 ต่ําสุดในรอบ 12 เดือน สะท้อนทิศทางเชิงลบของทั้งเศรษฐกิจเยอรมนีและสหภาพยุโรป โดย ทางฮัมบูร์ก คอมเมอร์เชียล แบงก์ (HBOC) ชี้ว่า เศรษฐกิจเยอรมนีอาจหดตัวลง 0.2% ในไตรมาส 3 ต่อเนื่องจาก การหดตัวลง 0.1% ในไตรมาสก่อนหน้า หรือมีแนวโน้มเข้าสู่ภาวะหดตัวเชิงเทคนิค (Technical Recession) อีกครั้ง นักลงทุนจึงเพิ่มโอกาสที่ธนาคารกลางยุโรป (ECB) อาจต้องปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก 0.50% ภายในสิ้นปีนี้ กดดัน ให้ค่าเงินยูโรร่วงลง หนุนการปรับตัวขึ้นของค่าเงินดอลลาร์ ราคาทองคําจึงถูกกดดันให้ปรับย่อตัวลงในช่วงบ่ายนี้ อนึ่ง แนะนําติดตามการเปิดเผย PMI ทั้งภาคการผลิตและภาคบริการ เดือนก.ย. ของสหรัฐ ในคืนนี้ เวลา 20:45 น. โดย หากข้อมูลออกมาดีกว่าคาดการณ์ ค่าเงินดอลลาร์มีโอกาสปรับตัวขึ้นต่อ กดดันให้ราคาทองคําปรับย่อตัวลงเพิ่มเติม
คําแนะนํา
• ซื้อทํากําไรระยะสั้น เมื่อราคาสามารถยืนเหนือแนวรับโซน 2,604-2,586 ดอลลาร์ต่อออนซ์
• ทยอยขายทํากําไร หากราคาไม่ผ่านแนวต้านบริเวณ 2,626-2,635 ดอลลาร์ต่อออนซ์
• สถานะซื้อตัดขาดทุน หากราคาหลุดแนวรับระดับ 2,586 ดอลลาร์ต่อออนซ์
บทความนี้จัดทำขึ้นโดย YLG Bullion International
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ 02-687-9888 กด 1 หรือเว็บไซต์ ylgbullion.co.th