หุ้นเทคโนโลยีร่วงลงเนื่องจากเงินเยนพุ่งขึ้นท่ามกลางความวุ่นวายของตลาด

ตลาดเอเชียกําลังเตรียมพร้อมสําหรับภาวะถดถอยหลังจากการเทขายครั้งสําคัญในตลาดโลกในวันพุธ นักลงทุนกําลังตอบสนองต่อข้อจํากัดทางการค้าใหม่ของสหรัฐฯ ที่อาจส่งผลกระทบอย่างมากต่อภาคเทคโนโลยี

หุ้นเทคโนโลยีและผู้ผลิตชิปในเอเชียพร้อมสําหรับเซสชั่นที่ท้าทาย เนื่องจากพวกเขาต้องเผชิญกับผลกระทบของข้อจํากัดการนําเข้าเทคโนโลยีของสหรัฐฯ ไปยังจีน และคําพูดของโดนัลด์ ทรัมป์ ที่แนะนําว่าไต้หวันควรชดเชยค่าใช้จ่ายด้านกลาโหมจากสหรัฐฯ

ดัชนี S&P 500 ลดลงอย่างมีนัยสําคัญที่สุดนับตั้งแต่เดือนเมษายน และ Nasdaq ลดลงอย่างรวดเร็วที่สุดนับตั้งแต่เดือนธันวาคม 2022 ดัชนีเซมิคอนดักเตอร์ฟิลาเดลเฟียประสบกับวันที่เลวร้ายที่สุดนับตั้งแต่เดือนมีนาคม 2020 โดยดิ่งลงเกือบ 7% ในวันพฤหัสบดี ดัชนีต่างๆ เช่น ดัชนีเทคโนโลยี Hang Seng และ TSMC ผู้นําเซมิคอนดักเตอร์ของไต้หวันคาดว่าจะเผชิญกับแรงกดดันอย่างมาก

นักลงทุนยังคาดการณ์การเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจจากภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก รวมถึงตัวเลขการค้าจากญี่ปุ่นและมาเลเซีย และสถิติตลาดแรงงานจากออสเตรเลียและฮ่องกง นอกจากนี้ ผู้เข้าร่วมตลาดกําลังรอการอัปเดตนโยบายจากการประชุมผู้นําที่สําคัญในกรุงปักกิ่ง ซึ่งจะสิ้นสุดในวันพฤหัสบดี

แม้ว่า Dow จะแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์อีกครั้ง แต่ความเชื่อมั่นของตลาดในวงกว้างยังคงระมัดระวัง และการเปลี่ยนจากหุ้นเทคโนโลยีไปสู่ภาคส่วนอื่นอาจไม่ป้องกันการขาดทุนเพิ่มเติม

ในตลาดสกุลเงิน เงินเยนญี่ปุ่นพุ่งขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 1 เดือนที่ 156.00 ต่อดอลลาร์ในวันพุธหลังจากสงสัยว่าญี่ปุ่นแทรกแซง ซึ่งถือเป็นการกระทําดังกล่าวครั้งที่สามในรอบหนึ่งสัปดาห์ Masato Kanda นักการทูตสกุลเงินชั้นนําของญี่ปุ่นระบุว่าพร้อมที่จะตอบโต้การเคลื่อนไหวของตลาดที่ "มากเกินไป" ตามรายงานของ Kyodo News

ดอลลาร์สหรัฐกําลังเผชิญกับการอ่อนค่าในวงกว้าง โดยแตะระดับต่ําสุดในรอบสี่เดือนเมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงินหลัก ซึ่งส่วนหนึ่งได้รับอิทธิพลจากความคิดเห็นของทรัมป์เกี่ยวกับความแข็งแกร่งของสกุลเงิน อัตราผลตอบแทนพันธบัตรก็ลดลงเช่นกัน โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปีแตะระดับต่ําสุดในรอบสี่เดือน ตามแถลงการณ์ของเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ ที่บอกเป็นนัยถึงการปรับลดอัตราดอกเบี้ยมากขึ้น

การประมาณการ GDPNow ของเฟดแอตแลนตาสําหรับการเติบโตในไตรมาสที่ 2 เพิ่มขึ้นเป็น 2.7% เพิ่มขึ้นจาก 2.0% ในสัปดาห์ก่อนหน้า ถึงกระนั้น โน้ตเชิงบวกนี้อาจถูกบดบังด้วยการเทขายที่นําโดยเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่องในตลาดหุ้นสหรัฐฯ และทั่วโลก นักลงทุนชาวเอเชียควรเตรียมพร้อมสําหรับความผันผวนของตลาดที่อาจเกิดขึ้นในเซสชั่นที่จะมาถึง

การพัฒนาที่สําคัญที่ต้องจับตามองในวันพฤหัสบดี ได้แก่ ข้อมูลการค้าของญี่ปุ่นในเดือนมิถุนายน ตัวเลขการว่างงานของออสเตรเลียในเดือนเดียวกัน และการประชุมนโยบายของธนาคารกลางยุโรป

บทความนี้ถูกแปลโดยใช้ความช่วยเหลือจากปัญญาประดิษฐ์(AI) สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดอ่านข้อกำหนดการใช้งาน