หุ้นเอเชียพุ่ง นักลงทุนประเมินการเทขายหุ้นเทคโนโลยี

โดย  Gina Lee

Investing.com – หุ้นเอเชียแปซิฟิกส่วนใหญ่ขึ้นในเช้าวันพุธ อย่างไรก็ตาม นักลงทุนยังคงประเมินผลกระทบของการเทขายหุ้นเทคโนโลยีจำนวนมาก และความกังวลที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับภาวะถดถอยของสหรัฐฯ ที่เกิดจากนโยบายการเงินที่เข้มงวดขึ้น

นิคเคอิ 225 ของญี่ปุ่นลดลง 0.17% เมื่อเวลา 22:51 น. ET (2:51 น. GMT) ในขณะที่ราคา KOSPI ของเกาหลีใต้เพิ่มขึ้น 0.68%

ASX 200 ในออสเตรเลียเพิ่มขึ้น 0.60%

ดัชนีฮั่งเส็ง ของฮ่องกงลดลง 0.08%

เซี่ยงไฮ้คอมโพสิต ของจีนเพิ่มขึ้น 0.53% ในขณะที่ ดัชนีส่วนประกอบ SZSE เพิ่มขึ้น 0.14% แม้ว่าปักกิ่งจะให้คำมั่นว่าจะกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง แต่นโยบายปลอดโควิดและการล็อกดาวน์ของประเทศได้สร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจอย่างมาก

JPMorgan (NYSE:JPM) ปรับลดประมาณการสำหรับผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศในไตรมาสที่สองของจีนลงเหลือ 5.4% จากที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ว่าจะลดลง 1.5% หลังจากข้อมูลที่น่าผิดหวังในเดือนเมษายน

เพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจ ธนาคารกลางของจีนและหน่วยงานกำกับดูแลด้านการธนาคารได้สนับสนุนให้ผู้ให้กู้เพิ่มเงินกู้ นอกจากนี้ จีนจะเสนอเงินช่วยเหลือภาษีเพิ่มเติมกว่า 140 พันล้านหยวน (21 พันล้านดอลลาร์) เพื่อช่วยชดเชยความเสียหายในธุรกิจที่เกิดจากการล็อกดาวน์

Nasdaq 100 ลดลง 2.20% หุ้นที่ขึ้นอยู่กับการโฆษณาอย่าง Snap Inc  (NYSE:SNAP) ร่วงลง 43% สู่การซื้อขายที่ต่ำกว่าราคา IPO ปี 2017 ที่ 17 ดอลลาร์ หลังจากที่บริษัทเตือนถึงแนวโน้มเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ การเทขายได้ทำให้คู่แข่งรายอื่น ๆ หุ้นลงด้วยเช่นกัน ซึ่งรวมถึง Meta, Alphabet (NASDAQ:GOOGL) และ Twitter (NYSE:TWTR)

ยอดขายบ้านใหม่ของสหรัฐฯ ลดลงเกินคาดในเดือนเม.ย. และการประเมินกิจกรรมทางธุรกิจของธนาคารกลางสหรัฐฯ ในริชมอนด์ก็ลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบสองปี

นักลงทุนกำลังเปลี่ยนการโฟกัสไปที่แนวโน้มนโยบายการเงิน เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับภาวะถดถอยที่อาจเกิดขึ้นจากนโยบายการเงินที่เข้มงวดขึ้น ตอนนี้พวกเขารอรายงานการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ ครั้งล่าสุด ซึ่งจะถึงกำหนดภายในวันนี้ เพื่อหาเบาะแสเพิ่มเติมว่าความเข้มงวดจะดำเนินต่อไปหรือไม่

เอลเลน ฮาเซนหัวหน้านักยุทธศาสตร์การตลาดของ FL Putnam บอกกับบลูมเบิร์กว่า “ตลาดกำลังเปลี่ยนการจับตามองไปเป็นข้อมูลที่เกิดขึ้นในเดือนที่แล้วหรือประมาณนั้น โดยโฟกัสไปที่ความกังวลเรื่องเงินเฟ้อไปจนถึงการเติบโต”

Raphael Bostic ราฟาเอล บอสติก ประธานเฟดของแอตแลนต้า หนึ่งในผู้กำหนดนโยบายผ่อนคลาย ของธนาคารกลาง เรียกร้องให้เฟดกระชับนโยบายด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยง "ความประมาท" เขากล่าวถึงในบทความที่เขาเขียนและเผยแพร่โดยธนาคารเมื่อวันอังคาร

ในเอเชียแปซิฟิก ธนาคารกลางนิวซีแลนด์ จะส่งมอบการตัดสินใจด้านนโยบายภายในวันนี้ โดยที่ ธนาคารแห่งเกาหลี จะส่งมอบการตัดสินใจตามมาในวันพฤหัสบดี

ในด้านข้อมูล ตัวเลข GDP และ จำนวนคนที่ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก ของสหรัฐฯ จะเผยแพร่ในวันพฤหัสบดี