โดย Dhirendra Tripathi
Investing.com -- หุ้นซื้อขายกันอย่างปั่นป่วนในวันอังคาร โดยร่วงลงและฟื้นตัวเหมือนเคย ขณะที่ธนาคารกลางสหรัฐเริ่มการประชุมนโยบายเป็นระยะเวลาสองวัน
รายงานรายได้จำนวนหนึ่งออกมาเหนือความคาดหมาย ซึ่งรวมถึง IBM (NYSE:IBM) และ 3M แต่นั่นส่งผลกระทบต่อหุ้นอย่างเงียบ ๆ Microsoft (NASDAQ:MSFT) รายงานหลังปิดตลาด และ Tesla และ Intel รายงานในวันพุธเช่นกัน
หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีตกต่ำเป็นพิเศษ โดย Nasdaq ร่วงหนักจากการปรับฐานในปีนี้ – นักลงทุนคาดว่าเฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยสี่ครั้งในปีนี้ – ลดมูลค่าของรายได้ในอนาคตสำหรับหุ้นเติบโต
การตัดสินใจของเฟดได้จุดไฟเผากลุ่มบริษัทเทคโนโลยี ใหญ่ ๆ อย่าง Apple (NASDAQ:AAPL) ซึ่งขึ้นมาทำสถิติสูงสุด และปรับตัวลงจากจุดนั้น
Nasdaq เริ่มต้นปีเลวร้ายที่สุดนับตั้งแต่ปี 1980 ตามการรายงานของรอยเตอร์ส
อีกปัจจัยที่ถ่วงตลาดหุ้นคือความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯ และรัสเซียเกี่ยวกับสถานการณ์ในยูเครน นักลงทุนกำลังหนีจากสินทรัพย์เสี่ยง เช่น หุ้นและสกุลเงินดิจิตอล และแสวงหาการลงทุนจากสินทรัพย์ปลอดภัย อย่าง ทองคำ
ต่อไปนี้คือ 3 ปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อตลาดที่นักลงทุนควรรู้
1. รายได้ของ Tesla
Investing.com รวบรวมข้อมูลรายรับในไตรมาสที่สี่ของ Tesla Inc (NASDAQ:TSLA) อยู่ที่ 16.88 พันล้านดอลลาร์เป็นประวัติการณ์ที่ 2.25 ดอลลาร์ นักวิเคราะห์จะรับฟังสิ่งที่บริษัทของ อีลอน มัสก์ กล่าวเกี่ยวกับแนวโน้มการผลิต เช่นเดียวกับการแข่งขันจากบริษัทผลิตรถยนต์ไฟฟ้าใหม่ ๆ และผู้ผลิตรถยนต์รายเดิม อย่าง General Motors Company (NYSE:GM) และ Ford Motor Company (NYSE:F)
2. Bitcoin และพวกพ้องเหรียญคริปโต
Bitcoinเริ่มฟื้นตัวเล็กน้อยจากการช้อนซื้อของนักลงทุน โดยราคาของ Bitcoin ร่วงลงไปต่ำกว่าระดับ 33,000 ดอลลาร์ ก่อนดีดตัวกลับมาอยู่ที่ 36,000 ดอลลาร์ในวานนี้ ฟื้นตัวพร้อม ๆ กับสกุลเงินดิจิตอลรายอื่น แต่ราคายังทรงตัวรอดูทิศทางของการประชุมเฟดที่จะสรุปในวันพุธนี้
3. รายได้ของ Intel
Intel Corporation (NASDAQ:INTC) กำไรต่อหุ้นในไตรมาสที่สี่คาดว่าจะอยู่ที่ 90 เซนต์จากรายรับที่มีแนวโน้มว่าจะอยู่ที่ 18.33 พันล้านดอลลาร์ ตามข้อมูลของ Investing.com นักวิเคราะห์จะรับฟังเบาะแสเกี่ยวกับห่วงโซ่อุปทานและความพยายามในการผลิตชิป
– ข้อมูลจาก รอยเตอร์ส และ Investing.com