โดย Dhirendra Tripathi
Investing.com -- ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทค่อนข้างแกว่งผันและปิดตลาดเมื่อคืนนี้ด้วยผลลัพธ์ที่ต่างกันไป ผลประกอบการไตรมาสที่สองของบรรดาธนาคารขนาดใหญ่ยังคงเหนือความคาดหมาย ส่งผลให้ราคาหุ้นเพิ่มขึ้น ขณะที่ผลตอบแทนพันธบัตรลดลงอีกครั้ง
Morgan Stanley (NYSE:MS) ทำผลงานได้เหนือความคาดหมาย จากความแข็งแกร่งในการซื้อขายหลักทรัพย์และค่าธรรมเนียมวาณิชธนกิจที่ช่วยสร้างผลกำไร ต่อเนื่องจาก JPMorgan Chase (NYSE:JPM), Goldman Sachs (NYSE:GS), Bank of America (NYSE:BAC), Citigroup (NYSE: C) และ Wells Fargo (NYSE:WFC)
ธนาคารส่วนภูมิภาคก็ประกาศผลประกอบการที่แข็งแกร่งเช่นกัน แม้จะมีกิจกรรมสินเชื่อที่ซบเซาในอุตสาหกรรมนี้ ทั้ง Bancorp และ Truist Financial (NYSE:TFC) ต่างก็ทำได้ดีเกินคาด
แม้ผลประกอบการรายไตรมาสจะเป็นบวกสำหรับธนาคารต่าง ๆ แต่ยังล้มเหลวในการสร้างแรงบันดาลใจให้นักลงทุนในตลาดโดยรวม เนื่องจากหุ้นกลุ่มพลังงานและเทคโนโลยีร่วงลง
ในด้านเศรษฐกิจ การฟื้นตัวของตลาดแรงงานยังคงดำเนินต่อไป เนื่องจากจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานลดลงสู่ระดับที่ต่ำจากการแพร่ระบาดของโควิด จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานเบื้องต้นลดลง 26,000 ราย เหลือ 360,000 รายจากการเพิ่มขึ้น 386,000 รายในสัปดาห์ก่อนหน้า
ข้อมูลยอดค้าปลีกที่จะเผยแพร่ในวันนี้ จะเป็นมาตรวัดความแข็งแกร่งของผู้บริโภค
ต่อไปนี้คือ สามปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบต่อตลาดในวันนี้:
1. แนวโน้มธุรกิจค้าปลีก
Charles Schwab (NYSE:SCHW) ซึ่งเข้าซื้อกิจการ TD Ameritrade คู่แข่งทางการค้าออนไลน์เมื่อปีที่แล้ว มีกำหนดจะรายงานผลประกอบการในวันนี้ นักวิเคราะห์ที่ติดตามโดย Investing.com คาดว่าจะมีกำไรต่อหุ้น 75 เซนต์ จากรายรับที่ 4.46 พันล้านดอลลาร์
2. มาตรวัดความแข็งแกร่งของผู้บริโภค
ตัวเลขยอดค้าปลีกเดือนมิถุนายนจะเผยแพร่ในวันนี้ เวลา 8:30 น. ET (1230 GMT) โดยคาดว่าจะลดลง 0.4% เมื่อเทียบเดือนต่อเดือน หลังจากที่ลดลง 1.3% ในเดือนพฤษภาคม
3. ความเชื่อมั่นผู้บริโภค
การสำรวจความเชื่อมั่นผู้บริโภคของมหาวิทยาลัยมิชิแกนมีการปรับเพิ่มขึ้นเป็น 86.5 ในเดือนกรกฎาคมจาก 85.5 ในเดือนมิถุนายน นี่เป็นตัวเลขเบื้องต้นซึ่งจะได้รับการแก้ไข ข้อมูลอย่างเป็นทางการจะเผยแพร่ในเวลา 10.00 น. ET