โดย Gina Lee
Investing.com – หุ้นเอเชียส่วนใหญ่ปรับตัวลงในช่วงเช้าวันนี้ ความขัดแย้งระหว่างสหรัฐและจีนที่ทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ ได้รับความสนใจมากกว่าขาขึ้นของตลาดสหรัฐเมื่อคืนนี้
ความขัดแย้งระหว่างทั้งสองประเทศปะทุขึ้นอีกครั้งหลังจากจีนได้ยิงขีปนาวุธพิสัยระยะกลาง 4 ลูกลงสู่น่านน้ำที่มีข้อพิพาทในทะเลจีนใต้เมื่อวานนี้ อันเป็นส่วนหนึ่งของการฝึกซ้อมทางการทหารโดยกองทัพปลดปล่อยประชาชนของจีน และในวันเดียวกันสหรัฐก็ได้ประกาศใช้มาตรการแซงก์ชันอีกสำหรับบริษัท 24 รายเพื่อเป็นการลงโทษบริษัทเหล่านั้นที่พยายามเกื้อหนุนให้จีน "ทวงคืนและดำเนินการทางการทหารในด่านข้อพิพาท" ที่ตั้งอยู่กลางทะเลด้วย
จีนได้เรียกร้องให้มีการเจรจากันโดยตรงเกี่ยวกับประเด็นข้อพิพาทที่เกิดขึ้น โดยมีรายงานว่ารองประธานสำนักงานควบคุมดูแลความมั่นคงแห่งชาติจีน ฝาง ซิงไห่ ได้เสนอขอให้มีการประชุมออนไลน์หรือทางโทรศัพท์ร่วมกับทางรัฐบาลสหรัฐ แต่สหรัฐยังไม่ได้ตอบสนองต่อคำขอดังกล่าวแต่อย่างใด
ดัชนี Shanghai Composite ของจีนดีดขึ้น 0.12% เมื่อเวลา 22:46 น. ตามเวลามาตรฐานตะวันออก (3:46 น. GMT) ส่วนดัชนี Shenzhen Component ขยับลง 0.51%
สำนักงานสถิติแห่งชาติได้รายงานในช่วงเช้าวันนี้ว่า ผลกำไรของบริษัทอุตสาหกรรมจีน ในเดือนกรกฎาคมเมื่อเทียบปีต่อปีแล้วขยายตัวขึ้น 19.6% จากเดือนมิถุนายนที่เมื่อเทียบปีต่อปีแล้วมีผลกำไร 11.50%
ดัชนี Hang Seng ติดลบ 0.88% และดัชนี Nikkei 225 ของญี่ปุ่นย่อตัวลง 0.44%
ดัชนี KOSPI ปรับตัวลงมา 0.59% หลังจากเกาหลีได้รายงานยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่สูงถึง 441 รายเมื่อวานนี้ นอกจากนี้ธนาคารกลางเกาหลียังได้ลดผลคาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจเกาหลีว่าจะทรุดตัวลง 1.3% จากเดิมที่คาดว่าจะหดตัวลงเพียง 0.2% อีกทั้งยังคงอัตราดอกเบี้ยสำหรับการทำธุรกรรมซื้อคืนระยะเจ็ดวันที่ 0.5% ซึ่งเป็นระดับที่ต่ำสุดในประวัติศาสตร์ด้วย