InfoQuest - ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลบในวันศุกร์ (13 ธ.ค.) หลังจากการเปิดเผยข้อมูลผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของอังกฤษหดตัวลงอย่างไม่คาดคิดในเดือนต.ค.
ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ปิดที่ 8,300.33 จุด ลดลง 11.43 จุด หรือ -0.14%
เศรษฐกิจของอังกฤษหดตัวเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกันในเดือนต.ค. ซึ่งเป็นการหดตัวติดต่อกันครั้งแรกนับตั้งแต่โรคโควิด-19 เริ่มแพร่ระบาดในช่วงต้นปี 2563
ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) หดตัว 0.1% เมื่อเทียบเป็นรายเดือนในเดือนต.ค. ซึ่งเป็นการหดตัวเช่นเดียวกับเดือนก.ย. ขณะที่นักเศรษฐศาสตร์ที่ได้รับการสำรวจโดยรอยเตอร์คาดการณ์ไว้ว่า GDP อาจเติบโต 0.1%
การแถลงงบประมาณของราเชล รีฟส์ รัฐมนตรีกระทรวงการคลังเมื่อวันที่ 30 ต.ค.นั้น ได้มีการเพิ่มภาษีธุรกิจอย่างมาก ซึ่งผลกระทบโดยตรงจะสะท้อนในข้อมูล GDP ตั้งแต่เดือนพ.ย.เป็นต้น
เงินปอนด์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ หลังจากที่ข้อมูลแสดงให้เห็นว่าเศรษฐกิจชะลอการเติบโตอย่างไม่คาดคิดในเดือนต.ค.
บรรดานักลงทุนคาดว่า ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) จะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ในการตัดสินใจนโยบายในสัปดาห์หน้า อย่างไรก็ตาม ข้อมูล GDP นี้อาจทำให้เทรดเดอร์คาดว่า อาจมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเร็วขึ้นในปีหน้า และนักลงทุนจับตาการปรับลดอัตราดอกเบี้ยจากธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ด้วย
อย่างไรก็ตาม ผลสำรวจบ่งชี้ว่าความเชื่อมั่นของผู้บริโภคอังกฤษแตะระดับสูงสุดในรอบ 4 เดือนในเดือนธ.ค. เมื่อภาคครัวเรือนเชื่อมั่นมากขึ้นเกี่ยวกับสถานะการเงินของตน
หุ้นกลุ่มเหมืองแร่โลหะมีค่า ร่วงลง 3.1% และกลุ่มเหมืองแร่อุตสาหกรรม ลดลง 2% ตามราคาทองแดงที่ได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของดอลลาร์
แต่หุ้นกลุ่มเครื่องดื่ม เพิ่มขึ้น 2.1% โดยหุ้นดิอาจีโอ (Diageo) ซึ่งผลิตเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ปรับตัวขึ้นอีก 2.3%