Investing.com - หุ้นฟิวเจอร์สสหรัฐฯ ทรงตัวในการซื้อขายช่วงค่ำของวันอังคาร ขณะที่นักลงทุนชะลอตัวก่อนข้อมูลเงินเฟ้อผู้บริโภค ซึ่งมีแนวโน้มที่จะเป็นปัจจัยในการปรับลดอัตราดอกเบี้ย
ข้อมูลเงินเฟ้อผู้ผลิตที่อ่อนตัวกว่าที่คาดการณ์ทำให้เกิดการฟื้นตัวในวอลล์สตรีท และช่วยให้หุ้นสหรัฐฯ กลับสู่ระดับก่อนเกิดการร่วงแรงเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว แนวโน้มของเงินเฟ้อที่อ่อนตัวลงนั้นจะดึงดูดการลดอัตราดอกเบี้ยที่มากขึ้น ซึ่งถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลให้ราคาหุ้นปรับตัวสูงขึ้น
เมื่อเวลา 19:11 ET (23:11 GMT) S&P 500 ฟิวเจอร์ส ขยับลงมาเป็น 5,45.25 จุด ขณะที่ Nasdaq 100 ฟิวเจอร์ส ทรงตัวที่ 19,107.75 จุด ดาวโจนส์ฟิวเจอร์ส ขยับลง 0.1% เป็น 39,869.0 จุด
จับตาข้อมูล CPI หาสัญญาณเพิ่มเติมเกี่ยวกับการลดอัตราดอกเบี้ย
ความสนใจของตลาดในตอนนี้จึงมุ่งไปที่ข้อมูลเงินเฟ้อ CPI ซึ่งมีกำหนดการณืจะเผยแพร่ในวันนี้
ข้อมูลดังกล่าวคาดว่าจะชี้ให้เห็นถึงเงินเฟ้อที่ผ่อนคลายลงเล็กน้อยในเดือนกรกฎาคม ซึ่งเมื่อรวมกับข้อมูล PPI ที่อ่อนตัวลงในวันอังคาร คาดว่าจะเป็นการปูทางสำหรับการลดอัตราดอกเบี้ยที่มากขึ้นโดยธนาคารกลางสหรัฐฯ ในเดือนกันยายน
เทรดเดอร์ได้แบ่งกันออกเป็น 2 ฝั่งว่าควรจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงที่ 25 หรือ 50 จุดพื้นฐานในเดือนกันยายน ตามข้อมูลของเครื่องมือ Fedwatch จาก CME ฝั่งของการปรับลดที่ 50 จุดนั้นเพิ่มขึ้นเล็กน้อย โดยมีโอกาสอยู่ที่ 53% หลังจากข้อมูล PPI เมื่อวันอังคาร
แนวโน้มของอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำลงจะส่งผลดีต่อตลาดหุ้น เนื่องจากมันช่วยให้เงินทุนที่สามารถนำไปลงทุนในภาคส่วนนี้เพิ่มขึ้น อัตราดอกเบี้ยที่ต่ำลงยังช่วยบรรเทาความกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจ หลังจากข้อมูลที่อ่อนแอเกี่ยวกับตลาดแรงงานทำให้เกิดความผันผวนอย่างมากในวอลล์สตรีท
วอลล์สตรีทสูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์จากความหวังการลดอัตราดอกเบี้ย
ดัชนีในวอลล์สตรีทพุ่งขึ้นในวันอังคาร ฟื้นตัวจากความผันผวนของสัปดาห์ที่แล้วและขยับใกล้ระดับสูงสุดในรอบสองสัปดาห์
ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น 1.7% เป็น 5,434.43 จุด ขณะที่ NASDAQ คอมโพสิต เพิ่มขึ้น 2.4% เป็น 17,183.95 จุดในวันอังคาร ด้านดัชนี ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 1% สู่ 39,765.64 จุด
เทรดเดอร์ได้เข้าซื้อหุ้นเทคโนโลยีที่มีราคาต่ำลง โดยเฉพาะบริษัทอินเทอร์เน็ตและผู้ผลิตชิปขนาดใหญ่ หลังจากผลประกอบการที่ผสมผสานในช่วงสามสัปดาห์ที่ผ่านมาทำให้เกิดการขาดทุนในภาคส่วนนี้
แนวโน้มของอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำลงยังเป็นแรงผลักดันให้เกิดการเข้าซื้อในภาคส่วนที่อ่อนไหวต่อเศรษฐกิจมากขึ้นอีกด้วย