หุ้น Sherwin-Williams พร้อมปรับตัวขึ้นแม้จะมีความกังวลเกี่ยวกับปริมาณ - Evercore ISI

เมื่อวันพุธ หุ้น Sherwin-Williams (NYSE:SHW) ได้รับราคาเป้าหมายที่อัปเดตจาก Evercore ISI โดยเพิ่มขึ้นเป็น 365 ดอลลาร์จาก 360 ดอลลาร์ ในขณะที่การจัดอันดับ Outperform ยังคงอยู่ การปรับเปลี่ยนนี้สะท้อนให้เห็นถึงความสามารถของบริษัทในการขับเคลื่อนรายได้ผ่านการเพิ่มขึ้นของหุ้นและอํานาจในการกําหนดราคา แม้ว่าปริมาณจะต่ํากว่าที่คาดการณ์ไว้เล็กน้อยก็ตาม

บริษัทตั้งข้อสังเกตว่าการเพิ่มขึ้นเล็กน้อยในคําแนะนําของบริษัททําให้ราคาหุ้นเพิ่มขึ้น 6% โดยเน้นย้ําถึงมูลค่าของกลยุทธ์การเติบโตเชิงป้องกันของ Sherwin-Williams ในสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอนในปัจจุบัน

แม้จะมีความกังวลขาลงเกี่ยวกับการประเมินมูลค่า ปริมาณที่ขาดความสดใส และผลประโยชน์อัตรากําไรขั้นต้นที่อาจเกิดขึ้นในช่วงครึ่งแรกของปี แต่บริษัทก็เน้นย้ําถึงการเพิ่มขึ้นของส่วนแบ่งการตลาดที่สม่ําเสมอของ Sherwin-Williams โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับจิตรกรมืออาชีพ

Evercore ISI ชี้ให้เห็นถึงการปรับปรุงปริมาณในบางกลุ่มและการกลั่นกรองต้นทุนวัตถุดิบ ซึ่งควบคู่ไปกับกลยุทธ์การกําหนดราคาที่มีประสิทธิภาพ คาดว่าจะมีส่วนช่วยในผลการดําเนินงานทางการเงินของบริษัท นอกจากนี้ บริษัทยังแนะนําว่าท่าทีที่ระมัดระวังของผู้บริโภคปรับปรุงบ้านอาจสนับสนุน Sherwin-Williams เนื่องจากสีถือเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีวัฏจักรน้อยกว่าและอิงตามความต้องการมากกว่า

ตัวบ่งชี้ตะกั่วการปรับปรุงบ้านที่ดีขึ้นเล็กน้อยของบริษัทชี้ให้เห็นถึงการฟื้นตัว "รูปร่างเช็ค" ในช่วงที่เหลือของปี 2024 แต่ตั้งข้อสังเกตว่าการลบผลกระทบด้านความมั่งคั่งอาจส่งผลให้มีแนวโน้มในเชิงลบเล็กน้อย

อย่างไรก็ตาม ด้วยราคาที่เพิ่มขึ้น ปริมาณการฟื้นตัว ต้นทุนวัตถุดิบที่คาดว่าจะทรงตัวในช่วงครึ่งหลัง และยอดขายที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น Evercore ISI ได้เพิ่มประมาณการกําไรต่อหุ้นในปี 2024 ขึ้น 0.10 ดอลลาร์เป็น 11.60 ดอลลาร์ ซึ่งสูงกว่าคําแนะนําของบริษัทและประมาณการที่เป็นเอกฉันท์

ราคาเป้าหมายใหม่ขึ้นอยู่กับพรีเมี่ยม 35% จากประมาณการกําไรต่อหุ้นในปี 2025 ของบริษัทที่ 12.80 ดอลลาร์ Sherwin-Williams ยังคงเป็นตัวเลือกอันดับต้น ๆ สําหรับ Evercore ISI โดยรวมอยู่ในพอร์ตโฟลิโอ "Fab Five" ในฐานะหุ้นบุริมสิทธิสําหรับการใช้ประโยชน์จากการฟื้นตัวในภาคการปรับปรุงบ้านที่มุ่งเป้าไปที่ลูกค้ามืออาชีพในช่วงครึ่งหลังของปี 2024

ในข่าวล่าสุดอื่น ๆ เชอร์วิน-วิลเลียมส์ได้เห็นการพัฒนาที่สําคัญหลายประการ บริษัทรายงานยอดขายทาสีที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้นในไตรมาสที่สองของปี 2024 และคาดว่าจะมีแนวโน้มที่คล้ายคลึงกันในช่วงที่เหลือของปี Sherwin-Williams ยังคาดการณ์ว่าประสิทธิภาพด้านราคาจะดีขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปี 2024 ซึ่งน่าจะผลักดันการขยายอัตรากําไรขั้นต้นแบบปีต่อปี

บริษัทการลงทุนหลายแห่งได้ปรับมุมมองของบริษัท Citi เพิ่มราคาเป้าหมายของ Sherwin-Williams เป็น 395 ดอลลาร์ โดยคงอันดับการซื้อ ในขณะที่ Mizuho เพิ่มราคาเป้าหมายเป็น 365 ดอลลาร์ โดยคาดว่าจะเพิ่มขึ้นจากกิจกรรมที่อยู่อาศัยที่อาจเกิดขึ้น ในทางกลับกัน BMO Capital ลดเป้าหมายลงเหลือ 360 ดอลลาร์ แต่ยังคงรักษาอันดับความน่าเชื่อถือไว้ โดยอ้างถึงจุดยืนที่ระมัดระวังเกี่ยวกับแนวโน้มปริมาณ

Jefferies รักษาเรตติ้งซื้อด้วยราคาเป้าหมาย 370 ดอลลาร์ โดยแสดงความมั่นใจในความสามารถของ Sherwin-Williams ในการได้รับส่วนแบ่งการตลาดและได้รับประโยชน์จากการเพิ่มขึ้นของราคา RBC Capital ลดราคาเป้าหมายลงเหลือ 370 ดอลลาร์ แต่ยังคงรักษาอันดับความน่าเชื่อถือ โดยเน้นย้ําถึงการลงทุนอย่างต่อเนื่องของบริษัทและกลยุทธ์การกําหนดราคาที่มีประสิทธิภาพ

ในที่สุด KeyBanc ได้อัปเกรด Sherwin-Williams จาก Sector Weight เป็น Overweight โดยมีเป้าหมายราคาใหม่ที่ 400 ดอลลาร์ โดยคาดว่าส่วนแบ่งการตลาดจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในภาคสีสถาปัตยกรรม การพัฒนาล่าสุดเหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของนักวิเคราะห์ในความยืดหยุ่นและศักยภาพในการเติบโตของ Sherwin-Williams

ข้อมูลเชิงลึกของ InvestingPro

การวิเคราะห์ล่าสุดจาก InvestingPro สอดคล้องกับมุมมองเชิงบวกของ Evercore ISI ที่มีต่อ Sherwin-Williams (NYSE:SHW) แนวทางเชิงกลยุทธ์ของบริษัทในการเติบโตได้รับการเน้นย้ําโดย InvestingPro Tip ว่าฝ่ายบริหารได้ซื้อหุ้นคืนอย่างจริงจัง ซึ่งเป็นการเคลื่อนไหวที่มักถูกมองว่าเป็นการแสดงความมั่นใจในอนาคตของบริษัท นอกจากนี้ ความมุ่งมั่นของ Sherwin-Williams ต่อผลตอบแทนของผู้ถือหุ้นยังโดดเด่นด้วยประวัติที่น่าประทับใจในการเพิ่มเงินปันผลเป็นเวลา 31 ปีติดต่อกัน ซึ่งบ่งบอกถึงนโยบายองค์กรที่มั่นคงและเป็นมิตรกับนักลงทุน

เมื่อดูข้อมูลแบบเรียลไทม์จาก InvestingPro Sherwin-Williams มีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดที่มั่นคงที่ 87.38 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงการมีอยู่อย่างมากในอุตสาหกรรม อัตราส่วนราคา/กําไร (P/E) ของบริษัทอยู่ที่ 36.3 ซึ่งบ่งชี้ถึงการประเมินมูลค่าระดับพรีเมียมที่นักลงทุนยินดีจ่ายสําหรับรายได้ ซึ่งอาจสมเหตุสมผลจากแนวโน้มการเติบโตในระยะยาวและการเพิ่มขึ้นของเงินปันผลที่สม่ําเสมอ นอกจากนี้ อัตรากําไรขั้นต้นในช่วงสิบสองเดือนที่ผ่านมา ณ ไตรมาสที่ 1 ปี 2024 นั้นแข็งแกร่งที่ 47.3% ซึ่งแสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพของบริษัทในการจัดการต้นทุนขายและรักษาความสามารถในการทํากําไร

สําหรับผู้ที่สนใจเจาะลึกถึงสถานะทางการเงินและผลการดําเนินงานของตลาดของ Sherwin-Williams InvestingPro นําเสนอข้อมูลเชิงลึกและตัวชี้วัดเพิ่มเติม ด้วยเคล็ดลับ InvestingPro ทั้งหมด 17 ข้อ นักลงทุนสามารถตัดสินใจได้อย่างชาญฉลาดมากขึ้นโดยการเข้าถึงการวิเคราะห์ที่ครอบคลุม หากต้องการสํารวจเคล็ดลับเหล่านี้และได้เปรียบในกลยุทธ์การลงทุนของคุณ ให้พิจารณาใช้รหัสคูปอง PRONEWS24 เพื่อรับส่วนลดสูงสุด 10% สําหรับการสมัครสมาชิก Pro รายปีและรายปีหรือรายปักษ์

บทความนี้ถูกแปลโดยใช้ความช่วยเหลือจากปัญญาประดิษฐ์(AI) สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดอ่านข้อกำหนดการใช้งาน