Investing.com - หุ้นฟิวเจอร์สสหรัฐฯ -ขยับลงเล็กน้อยในช่วงค่ำของวันจันทร์ หลังดีดตัวอย่างรวดเร็วในวอลล์สตรีท เนื่องจากนักลงทุนกลับไปลงทุนในหุ้นเทคโนโลยีก่อนรายงานผลประกอบการจากบริษัทสำคัญในภาคส่วนนี้
ดัชนีวอลล์สตรีทยังคงซื้อขายใกล้กับจุดสูงสุดที่เคยทำไว้เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เนื่องจากการเทขายทำกำไรและการหมุนเงินเข้าสู่ภาคส่วนที่อ่อนไหวต่อเศรษฐกิจได้กดดันหุ้นเทคโนโลยีตลอดเซสชั่นที่ผ่านมา
ฤดูกาลรายงานผลประกอบการในไตรมาสสองนี้คาดว่าจะเป็นตัวกำหนดทิศทางของภาคเทคโนโลยีในสัปดาห์ต่อ ๆ ไป
เมื่อเวลา 19:51 ET (23:51 GMT) S&P 500 ฟิวเจอร์ส ขยับลง 0.1% มาเป็น 5,605.50 จุด ขณะที่ Nasdaq 100 ฟิวเจอร์ส ปรับลง 0.2% มาเป็น 19,955.75 จุด ดาวโจนส์ฟิวเจอร์ส ทรงตัวที่ 40,680.0 จุด
Alphabet และ Tesla เตรียมรายงานผลประกอบการไตรมาสสอง
โฟกัสของตลาดในขณะนี้จึงอยู่ที่รายงานผลประกอบการจากบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่อย่าง Alphabet Inc (NASDAQ:GOOGL) และ Tesla Inc (NASDAQ:TSLA) ซึ่งจะมีการรายงานในวันนี้
Alphabet เตรียมเสนอแนวทางเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีที่ยักษ์ใหญ่อินเทอร์เน็ตของวอลล์สตรีทจะได้รับประโยชน์จากอุตสาหกรรมปัญญาประดิษฐ์ รวมถึงค่าใช้จ่ายในการพัฒนาเทคโนโลยีนั้นมากเพียงใด
ผลประกอบการของ Tesla คาดว่าจะเปิดเผยถึงวิธีที่ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้ารับมือกับอุปสงค์ที่ลดลงอย่างมาก ขณะที่โฟกัสก็ยังต้องอยู่ที่คำสัญญาของระบบขับขี่อัตโนมัติและรถแท็กซี่ที่ขับเคลื่อนด้วย AI
นอกเหนือจากสองยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีแล้ว บริษัทยักษ์ใหญ่อื่น ๆ ของวอลล์สตรีทก็มีกำหนดการณ์จะรายงานในวันนี้เช่นกัน ได้แก่ Visa Inc (NYSE:V) Coca-Cola Co (NYSE:KO) Texas Instruments Incorporated (NASDAQ:TXN) Lockheed Martin Corporation (NYSE:LMT) General Electric Company (NYSE:GE) United Parcel Service Inc (NYSE:UPS) และ Freeport-McMoran Copper & Gold Inc (NYSE:FCX)
วอลล์สตรีทได้รับประโยชน์จากการฟื้นตัวของหุ้นเทคโนโลยี
การหมุนเงินกลับเข้าสู่หุ้นเทคโนโลยีปริมาณมากได้ทำให้วอลล์สตรีทดีดตัวขึ้นในวันจันทร์ แม้ว่าดัชนีหลักจะยังคงยืนต่ำกว่าจุดสูงสุดที่เคยทำได้เมื่อเร็ว ๆ นี้
S&P 500 พุ่งขึ้น 1.1% มาเป็น 5,564.41 จุด ขณะที่ NASDAQ คอมโพสิต พุ่งขึ้น 1.6% มาเป็น 18,007.57 จุด ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 0.3% มาเป็น 40,415.44 จุด
ความเชื่อมั่นที่เพิ่มขึ้นว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนกันยายน ส่งผลให้นักลงทุนหันไปลงทุนในภาคส่วนที่มีแนวโน้มจะได้รับประโยชน์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจมากกว่า
แต่ความไม่แน่นอนในการเมืองของสหรัฐฯ ยังมีการเพิ่มขึ้น หลังจากที่ประธานาธิบดี โจ ไบเดน กล่าวว่าเขาจะไม่ลงสมัครรับเลือกตั้งใหม่ แต่สนับสนุนรองประธานาธิบดี กมลา แฮร์ริส เป็นผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีของพรรคเดโมแครตแทน
การสำรวจความคิดเห็นล่าสุดแสดงให้เห็นว่าผู้สมัครจากพรรครีพับลิกัน โดนัลด์ ทรัมป์ กำลังนำหน้าไบเดนและแฮร์ริส แม้จะยังไม่ชัดเจนว่าการเสนอชื่อแฮร์ริสจะเปลี่ยนแปลงแนวโน้มนี้หรือไม่
การคาดการณ์เกี่ยวกับตำแหน่งประธานาธิบดีของทรัมป์ก็ยังส่งผลให้เงินไหลเข้าสู่ภาคส่วนที่อ่อนไหวต่อเศรษฐกิจอีกด้วย