InfoQuest - ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในวันศุกร์ (10 พ.ค.) และปรับตัวขึ้นรายสัปดาห์มากที่สุดนับตั้งแต่ปลายเดือนม.ค. เนื่องจากความต้องการเสี่ยงได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับแนวโน้มการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในยุโรป และการเปิดเผยผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียน
ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดตลาดที่ระดับ 520.76 จุด เพิ่มขึ้น 3.99 จุด หรือ +0.77% และปรับตัวขึ้น 3% ในรอบสัปดาห์นี้
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 8,219.14 จุด เพิ่มขึ้น 31.49 จุด หรือ +0.38%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 18,772.85 จุด เพิ่มขึ้น 86.25 จุด หรือ +0.46% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 8,433.76 จุด เพิ่มขึ้น 52.41 จุด หรือ +0.63%
ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวขึ้นอย่างมากนับตั้งแต่ปลายปี 2566 โดยได้แรงหนุนจากความสนใจในด้านเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) และแนวโน้มการปรับลดอัตราดอกเบี้ย
นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากการที่ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ส่งสัญญาณที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในฤดูร้อน และเมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมาธนาคารกลางสวีเดนปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2559
รายงานการประชุมนโยบายการเงินในเดือนเม.ย.ของธนาคารกลางยุโรป (ECB) บ่งชี้ว่า ผู้กำหนดนโยบายสนับสนุนการเริ่มผ่อนคลายนโยบายการเงินในเดือนมิ.ย. ขณะที่ยังคงเชื่อมั่นว่า เงินเฟ้อจะลดลงสู่ระดับ 2% ในปีหน้า
หุ้นกลุ่มสาธารณูปโภคเพิ่มขึ้น 1.4% โดยหุ้นเอเนลของอิตาลี พุ่ง 3.8% หลังเปิดเผยผลกำไรหลักในไตรมาสแรกเพิ่มขึ้น และหุ้นอีดีพีซึ่งเป็นบริษัทผลิตไฟฟ้ารายใหญ่ที่สุดของโปรตุเกส พุ่ง 3.9% หลังเปิดเผยกำไรสุทธิไตรมาสแรกพุ่งขึ้นเกินคาด
หุ้นกลุ่มค้าปลีกเพิ่มขึ้น 1.5% โดยหุ้นซาแลนโด บริษัทค้าปลีกออนไลน์ของเยอรมนีพุ่ง 3.3% หลังเบเรนเบิร์กปรับเพิ่มคำแนะนำลงทุนหุ้นนี้เป็น "ซื้อ" จาก "ถือ"
ด้านความคืบหน้าด้านการควบรวมกิจการนั้น หุ้นธนาคาร BBVA และหุ้นซาบาเดลของสเปน ปรับตัวขึ้น 1.3% และ 0.5% ตามลำดับ ขณะที่นักลงทุนประเมินความคืบหน้าในการเสนอเทกโอเวอร์ครั้งแรกในสเปนนับตั้งแต่ทศวรรษ 1980
หุ้นแองโกล อเมริกัน บวก 1.4% หลังมีรายงานว่า ริโอ ทินโต ซึ่งเป็นเหมืองแร่รายใหญ่ได้พิจารณาข้อเสนอซื้อบริษัทแองโกล อเมริกัน
หุ้นซาโนฟีของฝรั่งเศส พุ่ง 1.3% หลังทำข้อตกลง 1.2 พันล้านดอลลาร์กับโนวาแวกซ์ของสหรัฐเพื่อผลิตวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19